ความจริง คือ แสงสว่างสู่ทางออกของปัญหา

Monday, December 14, 2015

บทวิเคราะห์จากองค์การเสรีไทยฯ จากสถานการณ์ผลัดเปลี่ยนอำนาจ จึงพอสรุปได้ว่า

บทวิเคราะห์จากองค์การเสรีไทยฯ
จากสถานการณ์ผลัดเปลี่ยนอำนาจ จึงพอสรุปได้ว่า

เปรมรบกับ 3 ป. ประวิทย์ ประยุทธ ป๊อก(อนุพงษ์)แน่

-ตัวแปรสำคัญคือ ธีรชัย ผบ.ทบ,ไพบูลย์ คุ้มฉายา ว่าจะย้ายข้างเข้าฝ่ายไหน

-ไพบูลย์ออกมาพบตู่เต้น จตุพร ณัฐวุฒิ เอาหลักฐานแฉโกงราชภักดิ์ แปลได้ว่าไพบูลย์ออกมาแถลงว่ามีการโกงจริงนั้นไพบูลย์กำลังจะทำอะไรเข้าข้างใด ต้องจับตาดูชัดๆ

-ธีระชัยออกมาบอกว่าสอบโครงการราชภักดิ์ที่ ทบ.ทำนะไม่โกง แต่การบริจาคและต้นปาล์มต้นละ 300,000 บาทนะ ให้ไปถามอุดมเดชเอาเองตนไม่ตอบ แปลว่าธีรชัยเล่นงานเปิดแผล อุดมเดชแน่ เพราะอุดมเดชร่วมประยุทธจะเอาปรีชาน้อง ประยุทธขึ้น ผบ.ทบ แต่ไม่สำเร็จ

-ในสถานการณ์หลังวันเผาพระสังฆราช 16 ธ.ค.แล้ว มันน่าจะมีอะไรออกมาชัดเจนขึ้นเรื่องการเปลี่ยนแปลงอำนาจให้ ที่ พล.เอก เปรม  ซึ่งต้องการจะยื้อต่อไป แต่ปัญหาที่ตามมานั้นยากมาก ๆ จน ทุกฝ่ายต้องฉวยโอกาสทำการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อเผด็จศึกอีกฝ่ายตามข้อแรกให้ได้
 
ขอให้ช่วยกันวิเคราะห์ต่อไปว่า จากปรากฎการณ์ที่แยกแยะไว้นี้ว่าตัวแปลสำคัญคือธีระชัย ผบ.ทบ. กับ ไพบูลย์ คุ้มฉายาจะย้ายข้างถือหางฝั่งไหน
 
ส่วนการดำเนินนโยบายของพรรคเพื่อไทยช่วงที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญยิ่ง. ขอได้โปรดหารือกับ สส. พท. ทุกจังหวัด ที่สดับตรับฟังพี่น้องประชาชนที่สนับสนุนพรรคฯ ว่าเขาคิดอย่างไรบ้าง. เพื่อนำมากำหนดการก้าวเดิน ให้เห็นว่าพรรคฯ รับฟังและให้ความสำคัญกับความคิดของมวลชนที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย

อีกทั้งโปรดระวังพลังศรัทธาที่ ปชช. เขาหวังพึ่งพรรคเพื่อไทยให้เป็นผู้นำธงการต่อสู้ เพื่อทวงคืนอำนาจอธิปไตยให้เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง. โดยไม่ต้องไปแคร์ ปชป. กปปส. พธม.คสช. เพราะมันไม่มีวันจะมาร่วมกับพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว ครับ.
 
อนึ่งต้องดูทูตอเมริกา ทูตอังกฤษ รัฐสภาEU และประธานองค์การ UNHCR แห่ง UN มีบทบาทมากขึ้นแสดงความห่วงใยสถานะการณ์ไทยและห่วง กับการที่คสช. รัฐบาลใช้ ม.112 ม.44 กฎอัยการศึกมากว่า ปีเจ็ดเดือนแล้ว ว่าไม่เป็นผลดีต่อการปกครองการพัฒนาประเทศไทยในอนาคตเลย แปลว่าโลกล้อมประเทศแบบนี้ฝ่ายจีน รัสเซียจะก้าวเดินหมากสนับสนุน คสช. ทหารต่อไปแบบพม่าหรืออย่างไร? ต้องจับตาสองด้าน ทั้งศึกภายในประเทศกับศึกภายนอกประเทศ ที่ดึงไทยเข้าไปเกี่ยวข้อง

No comments:

Post a Comment