ความจริง คือ แสงสว่างสู่ทางออกของปัญหา

Monday, July 27, 2015

"น้องไนซ์"นร.ชั้น ม.6 ชำแหละ วิชาหน้าที่พลเมือง-ประวัติศาสตร์ สอนอย่างไร...



Download








คุณชูวิทย์ ร้องขอความเป็นธรรมให้กับเยาวชน สามราย กรณีถูกตำรวจจับกุมคุมขั...










ทางออกประเทศไทย อ.ชูพงศ์ 27 ก.ค. 2558 ตอน ทักษิณ มหิดล และอนาคตคนไทย



Download








ท่านจารุพงศ์ เลขาธิการเสรีไทย & คนไทยแอลเอ ร่วมฉลอง 66 ปี วันคล้ายวันเกิด ดร.ทักษิณ ชินวัตร 26 กรกฎาคม 2558

ท่านจารุพงศ์ เลขาธิการเสรีไทย & คนไทยแอลเอ ร่วมฉลอง 66 ปี วันคล้ายวันเกิด ดร.ทักษิณ ชินวัตร 26 กรกฎาคม 2558 โดย ท่านจารุพงศ์ได้วิเคราะห์การเมืองไทยด้วยความห่วงใย และเรียกร้องให้คนไทยทั่วโลก ร่วมมือกับองค์การเสรีไทย เพื่อเปลี่ยนระบอบ https://youtu.be/YcStl2u7NHo




Sunday, July 26, 2015

PIANGDIN ACADEMY: Thaksin Shinawatra: Me and My Country (1)




 ผมขอเริ่มตอนที่หนึ่งโดยการเล่าเรื่องเบื้องหลังก ารเจรจากับญี่ปุ่นในการสร้างสนามบินสุวรรณภูมิครับ   ปี 2544 ผมได้ประกาศว่าจะยกเลิกการประกวดราคาก่อสร้างอาคารผู้โดยสารของสนามบินสุวรรณภูมิซึ่งประกวดราคาโดยรัฐบาลก่อนเป็นวงเงิน 54,000 ล้านบาทเศษ โดยออกแบบรองรับผู้โดยสารได้ 35 ล้านคน ซึ่งขณะนั้นผมเห็นว่าแพงและจำนวนผู้โดยสารที่รองรับได้น้อยไป เกรงจะไม่พอ เปิดปุ๊บก็ต้องเต็มปั๊บ ทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยในขณะนั้นก็วิ่งมาพบผมและขอคัดค้านเพราะเรากู้เงิน JBIC อยู่ โดยบอกว่าจะยกเลิกเงินกู้   ผมก็นั่งคิด เนื่องจากเรายังไม่พ้นวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นเมื่อ ก.ค. 40 แต่ถ้าเรากลัวไม่ได้กู้เงิน เราก็ต้องสร้างสนามบินที่แพงเกินจริงและรองรับผู้โดยสารได้น้อยเกินไป เพราะจะสร้างใหม่ทั้งทีอุตส่าห์รอกันมาตั้ง 40 ปี ขณะนั้นผมอ่านออกว่าทูตญี่ปุ่นกลัวว่าประกวดราคาใหม่บริษัทญี่ปุ่นจะไม่ชนะประมูล เรื่องการไม่ให้กู้เงินคงจะไม่จริง   ผมก็เลยบอกไปว่าผมจำเป็นต้องยกเลิกการประมูลและแก้แบบใหม่ให้รองรับผู้โดยสารจาก 35 ล้านคนเป็น 45 ล้านคน ถ้าญี่ปุ่นไม่ให้กู้ก็ไม่เป็นไร ผมใช้เงินแบงค์กรุงไทยกับแบงค์ออมสินก็ได้ ผมก็เลิกการประมูล แก้แบบเป็น 45 ล้านคน และให้มีการประมูลใหม่   ผลปรากฎว่าราคาลดลงจาก 54,000 ล้านบาท เป็น 36,666 ล้านบาท ประหยัดไป 17,000 ล้านบาทเศษ พร้อมกับรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มอีก 10 ล้านคน จาก 35 เป็น 45 ล้านคน ซึ่งขนาดเพิ่มแล้ววันนี้หลังจากเปิดไม่กี่ปีก็เต็มแล้ว ทั้งๆที่ไปใช้ดอนเมืองด้วย   และในที่สุด ท่านทูตญี่ปุ่นคนเดิมก็กลับมาขอร้องให้เราใช้เงินกู้ JBIC ต่อไปเหมือนเดิม (การเจรจาต้องรู้ความต้องการของเขาและของเรา)   ถ้าท่านจำได้ช่วงผมเป็นนายกฯใหม่ๆ ผมได้ประกาศว่าไทยจะไม่ยอมกู้เงินนอกเด็ดขาดยกเว้นสัญญาที่มีอยู่เดิม ทั้งๆที่ตอนนั้นเรามีเงินสำรองอยู่ 27-28 พันล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น แต่เรามีหนี้ต่างประเทศมากกว่าเงินสำรองเรามาก รวมทั้งหนี้ IMF ถึง 12,000 ล้าน  



ผมเข้าใจโลกทุนนิยมดีครับ มันเปรียบเสมือนว่าเมื่อแดดออก มีแต่คนจะเอาร่มมาให้เราถือเต็มไปหมดทั้งๆที่เราไม่ต้องใช้ แต่ยามฝนตก เราอยากได้ร่มสักคันก็ไม่มีใครให้ยืม เพราะฉะนั้นจึงต้องสร้างคำว่า Trust & Confident ให้ได้ เงินถึงจะมา   ผมเลยใช้นโยบายว่า กัดฟันไม่กู้เงินนอกเท่านั้น ต่างประเทศก็เริ่มมั่นใจขึ้น เงินต่างประเทศก็เริ่มเข้ามาประกอบกับการปรับนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยในขณะนั้นให้สอดคล้องกัน ทำให้พ่อค้านำเข้าและส่งออกที่เก็บเงินไว้ต่างประเทศก็เริ่มนำกลับเข้ามา เสถียรภาพเงินบาทก็แข็งขึ้น เงินสำรองก็มากขึ้นจนเราสามารถใช้หนี้ IMF ได้ ซึ่งตอนเกิดวิกฤตตอนเราต้องยืมเงิน IMF ทุกคนก็คิดว่าต้องใช้เวลาเป็นสิบๆปีกว่าจะใช้หนี้ได้   ตอนที่ผมตัดสินใจใช้หนี้หลายคนก็ห้ามผมว่าทำไมต้องรีบใช้ เดี๋ยวเงินสำรองจะพร่องมากไปไม่พอใช้ บังเอิญผมมีประสบการณ์เป็นนักกู้เงินมาก่อน ถ้าเราเป็นหนี้แล้วใช้คืนได้เขาถึงว่าเราเป็นลูกค้าชั้นดีที่จะให้กู้มากขึ้นอีก ผมก็เลยสั่งให้ใช้หนี้ทั้งหมดทีเดียว หม่อมอุ๋ยขอต่อรองเป็นอีก6 เดือน ผมก็เลยบอกว่าผมประกาศเลยนะว่าอีก 6 เดือนจะชำระ   ก็เลยเกิดการชำระหนี้ IMF ก่อนครบกำหนดถึง 2 ปี ทำให้ชื่อเสียงของประเทศไทยดีขึ้นมาก เงินก็เริ่มไหลเข้าประเทศไทยอย่างต่อเนื่องจนเรากลายเป็นประเทศที่เรียกว่าเป็น Net Creditor Nation คือเป็นประเทศที่มีเงินฝากเป็นเงินตราต่างประเทศมากกว่าเงินกู้ต่างประเทศ โดยรวมตัวเลขทั้งภาครัฐและภาคเอกชนด้วย เป็นครั้งแรกของไทย  



สรุปก็คือว่าถ้าเรามียุทธศาสตร์การเงินและการทำงานที่ควบคู่กันได้ดี เราจะสร้างTrust & Confident ให้กับองค์กรของเรา(ซึ่งในที่นี้ก็คือประเทศ) แล้วเราจะเติบโตได้ เพราะจะมีเงินทุนเข้ามาให้เราได้ใช้บริหารและสร้างรายได้อย่างไม่จำกัดครับ วันนี้เอาเท่านี้ก่อนครับ////
















TV24 26-07-58 NEWS ROOM 12.00 - วันคล้ายวันเกิดครบ 66 ปี พ.ต.ท.ทักษิณ ชิ...



Download

Monday, July 20, 2015

ทำไม ปวงชนชาวไทย ต้องลุกมาสานเครือข่ายประชาชน ตัวจริง





ชื่อกลุ่ม “ปวงชนชาวไทยเพื่อการปฏิวัติสันติสู่เสรีประชาธิปไตย” 

(จะเปลี่ยนตามผลโหวต)

หลักการและเหตุผลของการตั้งองค์การของปวงชนชาวไทย


เนื่องจากปัญหาทางการเมืองที่เรื้อรังมานับทศวรรษ  ที่บัดนี้ได้ทำให้เกิดทางตันที่เกลื่อนไปด้วยความเสียหายต่อประเทศชาติ และกระทบต่อสิทธิ เสรีภาพ สวัสดิภาพ ความเป็นอยู่ ความเชื่อมั่น และอนาคตของปวงชนชาวไทยในทุก ๆ ด้าน  เป็นความตกต่ำอย่างสูงสุดในห้วงหลายสิบปีที่ผ่านมา  และทางออกของประเทศนั้น ไม่สามารถปล่อยให้อยู่ในมือของกลุ่มต่าง ๆ ที่อ้างความชอบธรรมโดยข้ามหัวประชาชน หรือไม่จริงใจต่อประชาชนได้   กลุ่มแรก คือ กลุ่มเผด็จการศักดินาและอภิสิทธิชนที่กำลังครอบงำประเทศ ด้วยการตั้งก๊กแก็งค์ของตนขึ้นมายึดอำนาจจากประชาชนและพยายามสร้างความชอบธรรมให้ตนเองและพรรคพวก โดยทำลายหลักสากลว่าด้วยประชาธิปไตย หลักสิทธิมนุษยชน และหลักกฎหมายต่าง ๆ ที่สากลโลกที่เจริญแล้วเขาถือปฏิบัติกันจนประเทศก้าวหน้าไปมากแล้ว  และไม่สามารถให้อยู่ในมือของอีกกลุ่มหนึ่ง อันได้แก่นักการเมือง ไม่ว่ากลุ่มใด ๆ ก็ตาม  เพราะพวกเขาได้ถูกสร้างให้เป็นตัวร้าย เป็นศัตรูของชาติ และเป็นผู้ทำให้ประชาธิปไตยแบบสากลเดินต่อไปไม่ได้ไปแล้ว จนนำมาสู่การเมืองการปกครองแบบเผด็จการทหารเพื่อรักษาและกระชับราชาธิปไตยแบบไทย ๆ ที่เลวร้ายยิ่งกว่าเก่า ดังเห็นได้ชัดแจ้งที่สุดแล้วในวันนี้  

ดังนั้น ประชาชนจึงต้องลุกขึ้นมาประกาศตัวในฐานะเจ้าของประเทศร่วมกัน บนความเข้าใจร่วมที่ว่าปวงชนชาวไทยนั้น เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริง ไม่ใช่กษัตริย์และกลไกของราชสำนัก ไม่ใช่ทหาร ไม่ใช่ข้าราชการ และไม่ใช่นักการเมือง ซึ่งล้วนแต่กินเงินเดือนจากภาษีอากรของประชาชนทั้งสิ้น และบุคคลเหล่านี้ ล้วนไม่ใช่ผู้มีอำนาจพิเศษใด ๆ เลย หากไม่ได้รับการยอมรับให้ถือและใช้อำนาจของประชาชน โดยเอาเงินภาษีของประชาชนไปประกอบกิจกรรมเชิงอำนาจและผลประโยชน์ต่าง ๆ      เนื่องจากวันนี้ พวกเขาทำบ้านเมืองเละเทะ แย่งอำนาจกันบนความเสียหายของประชาชน  หลอกให้ประชาชนเชื่อว่า พวกเขาล้วนทำเพื่อประชาชน แต่ความจริงย่อมปรากฏชัดว่า ใคร ทำเพื่อประชาชนจริงหรือไม่ และเพียงใด  จึงถึงเวลาแล้ว ที่ประชาชนจะต้องรวมตัวกัน แล้วประกาศให้รู้ว่า เจ้าของประเทศตัวจริง กำลังต้องการอำนาจคืน และจะสร้างฉันทามติ หรือคำประกาศในเชิงเป้าหมายของประเทศใหม่ร่วมกัน โดยก้าวให้พ้นเสียจากการหลอกลวง คดโกง และวงจรอุบาทว์ที่คนไทยได้รู้เห็นมานานพอ จนชัดแจ้ง ไร้ข้อกังขาอีกต่อไป  แล้วจะร่วมกันสร้างรากฐานประเทศใหม่ บนหลักการต่าง ๆ ที่ประเทศพัฒนาแล้ว เขายึดถือกัน เช่น

หนึ่ง อำนาจสูงสุด ทั้งด้านนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ เป็นของประชาชน โดยให้ตัวแทนปวงชนไปใช้แทน เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ไม่ใช่ให้ใครมายึดแล้วไปใช้แทนประชาชน โดยอ้างว่าทำเพื่อประชาชน แต่ประชาชนกลับไม่ได้มีส่วนร่วม อนุมัติ และตรวจสอบใด ๆ ซึ่งถือเป็นการโกหก ตอแหล และน่าทุเรศยิ่ง

สอง เนื่องจากประชาชนคือผู้มีอำนาจสูงสุด เป็นรัฎฐาธิปัตย์ตัวจริง เหนือรัฐธรรมนูญและเหนือทุกสถาบัน  ดังนั้น รัฐบาลหรือผู้อ้างอำนาจรัฐใด ๆ จะทำการริดรอนสิทธิมนุษยชน เสรีภาพด้านต่าง ๆ และความเป็นใหญ่ของประชาชนมิได้โดยสิ้นเชิง  การอ้างอำนาจรัฐทั้งจากการมาจากเลือกตั้งหรือจากการยึดอำนาจผ่านการกบฏต่อประชาชน หากละเมิดต่อสิทธิและเสรีภาพพื้นฐานตามหลักสากลแล้ว ย่อมถือเป็นโมฆะ และประชาชนไม่จำเป็นต้องยอมรับ และมีสิทธิในการประท้วง ต่อต้าน ขัดขืน และล้มล้างผู้ก่อการทรยศต่อหลักนี้ได้โดยชอบธรรมเสมอ ยกเว้นในกรณีที่การกระทำของปัจเจกชนหรือกลุ่มคนใด ๆ ไปทำลายสิทธิและเสรีภาพพื้นฐานของผู้อื่น ที่เป็นที่ยอมรับกันตามมาตรฐานสากลด้วยเท่านั้น

สาม อำนาจกษัตริย์ ได้ถูกปรุงแต่งและถูกนำไปใช้กันเป็นเครือข่าย อย่างฝังรากลึก จนเป็นเหตุให้วงจรอุบาทว์ต่าง ๆ คอยบั่นทำลายพัฒนาการของประชาธิปไตยมาตลอด  บัดนี้ ประชาชนเจ้าของอำนาจ ได้ตระหนักดีแล้ว จึงวางเป้าหมายและยึดหลักว่า จะต้องไม่มีอำนาจกษัตริย์ในระบอบการปกครองของประชาชนอีกต่อไป  ส่วนตัวกษัตริย์นั้น จะอยู่ได้หรือไม่ จะมีรัชกาลที่สิบหรือไม่ ประชาชนทั่วประเทศ จะตัดสินใจกันต่อไป  และพฤติกรรมของผู้ที่เกี่ยวข้อง จะเป็นตัวกำหนดการตัดสินใจของปวงชนชาวไทยในอนาคตอันใกล้นี้

สี่ เมื่ออำนาจสูงสุด และแผ่นดินไทย เป็นของคนไทยทุกคน โดยเท่าเทียมกัน ดังนั้น การแสวงหาตัวแทน และผู้ใช้อำนาจของประชาชน ในฐานะผู้นำด้านต่าง ๆ นั้น จะต้องมาจากประชามติของปวงชนชาวไทย ผ่านการเลือกตั้งทั้งทางตรงและทางอ้อม เท่านั้น ไม่ใช่การแต่งตั้งโดยไม่มีปวงชนชาวไทยเกี่ยวข้อง  โดยในการเลือกตั้งนั้น ต้องถือว่า คนไทยทุกคน มีหนึ่งสิทธิและหนึ่งเสียงเท่ากัน  ตามศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และความเป็นเจ้าของประเทศที่เท่าเทียมกันโดยทั่วหน้า ทั้งทางกฎหมาย และโดยพื้นฐานในทุกกรณี

ห้า ต่อเนื่องจากข้อสี่ กฎหมายไทย ต้องเขียนขึ้นโดยตัวแทนปวงชนชาวไทย และต้องผ่านฉันทามติของปวงชนโดยตรงหรือโดยอ้อมก่อนเสมอ  โดยจะต้องถือว่า ทุกคนในประเทศไทย อยู่ใต้กฎหมายโดยเสมอภาคกัน และต้องประกันว่า คนไทยทุกคนจะได้รับโอกาสและสิทธิต่าง ๆ โดยเท่าเทียมกัน ไม่มีการแบ่งแยกด้วยหลักใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งโดยนิตินัยและโดยพฤตินัย 

หก กฎหมายรัฐธรรมนูญนั้น ย่อมมาจากประชามติของปวงชนชาวไทย การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่ไม่ได้มาจากการดำเนินการของประชาชนหรือตัวแทนประชาชนที่ผ่านการเลือกตั้งมา ย่อมถือเป็นโมฆะ และผู้บังอาจก่อการปล้นอำนาจประชาชนและฉีกรัฐธรรมนูญของปวงชนชาวไทยในอดีต ต้องถือเป็นกบฏแผ่นดิน และจะต้องถูกพิจารณาให้รับโทษทัณฑ์ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่านประชามติแล้วก่อนหน้าการรัฐประหารแต่ละครั้ง   แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเราต้องการเดินต่อไปข้างหน้าร่วมกันทั้งชาติ  เมื่อพิจารณาโทษทัณฑ์แล้ว อาจให้มีการลดหย่อนโทษหรือนิรโทษกรรมได้ หากผู้ก่อการและผู้ก่อการยอมรับผิดต่อปวงชนชาวไทย และเมื่อปวงชนชาวไทย มีประชามติเห็นชอบเช่นนั้น

เจ็ด ความมั่นคงของชาติ ย่อมหมายถึงความอยู่ดีมีสุขของประชาชน บนหลักการข้างต้น  จะอ้างเอาความอยู่รอดและสวัสดิภาพของบุคคลใด หรือตระกูลใด หรือหมู่คณะใด มาเป็นข้ออ้างเพื่อความมั่นคงของชาติ แล้ว กระทำการใด ๆ ที่ขัดกับหลักข้างต้น ย่อมถือเป็นเรื่องที่ละเมิดต่อหลักประชาชนเป็นใหญ่ และจะต้องถูกกำจัดออกไปเสียจากกฎหมายและการถือปฏิบัติในอนาคต  และคนที่จะตัดสินใจเรื่องความมั่นคงของชาติ ย่อมเป็นตัวแทนของปวงชนชาวไทย ที่ทำหน้าที่บริหารประเทศ ซึ่งมีวาระชัดเจน และถูกตัดสินผลงานโดยประชาชน  ทหารจะอ้างเหตุแห่งความมั่นคงของชาติแล้วทำตัวเหนือผู้นำฝ่ายบริหารมิได้ ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น

แปด ความเห็นต่าง และความแตกต่างทุกชนิดในหมู่คนไทย เป็นเรื่องธรรมชาติ และคนไทยต้องอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างทั้งหลาย ใต้กรอบข้างต้น โดยจะต้องแสวงหาทางออกบนข้อตกลงที่ถือคนไทยที่แตกต่างนั้น เป็นพี่น้องร่วมชาติที่มีฐานะเสมอกัน  โดยจะต้องใช้วิถีทางตามกรอบประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชนและหลักกฎหมายสากลต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด     โดยหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง การก่อการร้าย การทำร้ายพี่น้องร่วมชาติ รวมทั้งทรัพย์สินของชาติ และการมุ่งทำลายกันและกันให้ถึงที่สุด

เก้า เพื่อให้สอดคล้องกับหลักประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน หรือ เสียงประชาชนคือเสียงสวรรค์  ประชาชนต้องได้รับสิทธิโดยชอบธรรมตามหลักการข้างต้นโดยสมบูรณ์ ในการรวมตัวกัน ในฐานะเจ้าของประเทศ ที่จะไม่ยอมให้ใครรับสมอ้างเอาไปโดยง่ายได้อีก  การรวมตัวของประชาชนที่มีพลังเท่านั้น ที่จะสามารถเอาชนะการครอบงำที่ทำกันมานานนี้ได้   ประชาชนที่เข้มแข็ง รอบรู้เท่าทัน เรียนรู้อย่างเสรี และสานพลังกันได้จริงเท่านั้น จึงจะสามารถเป็นใหญ่ได้จริง  การประสานกันเป็นพลังประชาชน โดยมีตัวแทนอันเป็นรูปธรรม ย่อมสามารถทำให้นานาอารยประเทศยอมรับ เข้าใจ เห็นดีเห็นงามกับสิ่งที่พวกเราจะทำ แล้วมาสนับสนุนให้ประชาชนสามารถกู้อำนาจคือมาเสียจากกลุ่มเผด็จการทุกรูปแบบ    วันนี้ รัฐบาลและตัวแทนของปวงชนชาวไทย ไม่ได้มีอยู่จริง  จึงสรุปได้ว่า ประชาชนต้องรวมตัวกันอย่างจริงจัง เพื่อยืนยันว่า อำนาจจะต้องคืนมาอยู่กับพวกเรา ปวงชนชาวไทยโดยเร็ว

สิบ กลไก ประเพณี วัฒนธรรม และตัวบทกฎหมายใด ๆ ที่ขัดกับหลักข้างต้นนี้ จะต้องถูกกำจัดออกไปเสียให้สิ้น  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประกาศคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน หรือคณะรัฐประหารที่ผ่านมาทั้งหมด  

สรุปว่า  ข้างต้นนี้คือเหตุหลัก ๆ ที่ประชาชนได้รวมตัวกัน เพื่อประกาศให้ชาวโลกรู้ว่า วันนี้ ปวงชนชาวไทย ได้เรียนรู้เกี่ยวกับปัญหาของพวกเราเองอย่างดีแล้ว และมีเจตน์จำนงค์ที่จะแก้ปัญหาที่รากเหง้าของปัญหาจริง ๆ ซึ่งล้วนแต่เกิดจากกลไก วัฒนธรรม ตัวบุคคล และวิวัฒนาการแบบไทย ๆ ที่ทำลายตัวเองมาตลอด จนพวกเรายอมให้ดำเนินต่อไปไม่ได้  และเราไม่เชื่อว่า บุคคลที่อยู่ในอำนาจขณะนี้ และที่จะอ้างว่าเป็นตัวแทนปวงชนชาวไทย โดยไม่ได้สอดคล้องกับหลักการข้างบนนี้นั้น จะสามารถนำพาประเทศชาติพ้นจากการดำดิ่งสู่ก้นเหวลึกได้  วันนี้ ประชาชนตื่นแล้ว และพวกเราได้ร่วมกันลุกขึ้นมากู้ชาติให้สำเร็จลุล่วงโดยเร็ว


19 ก.ค. 2557
ร่าง ณ มหานครซานฟรานซิสโก เพื่อเป็นการจุดประกายให้ประชาชนสานต่อ
ประเทศสหรัฐอเมริกา
โดย ดร.เพียงดิน รักไทย ในฐานะภารโรงและลูกหลานของปวงชนชาวไทย

แล้วจะช่วยได้อย่างไร?  จะร่วมมือได้อย่างไร? โปรดอ่านคำประกาศของดร.เพียงดิน ต่อไปนี้

ด่วน!!!  ดร.เพียงดิน เชิญปวงชนชาวไทย ร่วมสร้างองค์การของประชาชนไทยทั่วโลก  ได้เวลาประชาอภิวัฒน์แล้ว!!!
http://youtu.be/FVsrQDJ9ALE

หลังจากดูวิดีโอแล้ว สิ่งที่อยากให้พี่น้องร่วมกันทำ เป็นการเริ่มต้นการลงรากสร้างฐานขบวนประชาชนจริง ๆ ณ ขั้นนี้ มีดังนี้

1. ลงชื่อเข้าร่วมขบวนการประชาชนฯ โดยข้อมูลส่วนตัว ปิดลับ ดร.เพียงดิน ดูแลแต่ผู้เดียว
https://docs.google.com/forms/d/11NYQ9_MuV7ocmLxMUvqZb126TmgzF34hDnR3dhCKhpw/viewform

2. ไปโหวตเลือกหรือเสนอชื่อของขบวนประชาชน ได้ที่
http://www.poll-maker.com/poll365542xF7fA4A97-14

3. ร่วมกันแสดงวิสัยทัศน์สำหรับอนาคตประเทศไทย ใต้ระบอบใหม่
https://docs.google.com/forms/d/1tfCzzjPXY10tc4Hx9pVimxVGGg6cUvyYdr4LTVkiaIs/viewform?c=0&w=1

ด้วยศรัทธาในพลังของประชาชนอย่างเต็มเปี่ยม

piangdin









Saturday, July 18, 2015

Piangdin for Peace Academy: สภาอภิวัฒน์ราษฎรเสรีไทย: ขบวนของประชาชน เจ้าของประ...







ขบวนของประชาชน เจ้าของประเทศไทย ควรใช้ชื่อใด ติดต่อชาวโลก?

ขบวนของประชาชน เจ้าของประเทศไทย ควรใช้ชื่อใด ติดต่อชาวโลก?
คณะราษฎร 2558 ::: People's Party 2015 (PP2015)
สภาอภิวัฒน์ราษฎรเสรีไทย ::: Revolutionary Council of Free Thai Citizens (RCFC)
คณะราษฎรเพื่อสันติภาพและความมั่งคั่ง ::: People's Power for Peace and Prosperity (PPPP)
คณะราษฎรเพื่อการอภิวัฒน์สันติ สู่ประชาธิปไตย People's Party for Peaceful Democratic Revolution (PPPDR)
คณะราษฎรเพื่อสาธารณรัฐไทย(หรือสยาม) ::: People's Party for Thai Republic (PPTR)
เครือข่ายราษฎรเสรีไทยเพื่อการอภิวัฒน์ ::: Global Networks of Free Thai Citizens for Revolution (GNFTCR)
เครือข่ายคนไทยเพื่อประชาธิปไตยของปวงชน ::: Networks of Thais for People's Democracy (NTPD)
Quiz Maker

ความจริงเรื่องน้ำมันในประเทศไทย



ใครดูรายการของคุณสัญญา คุณากร ได้คุยเรื่องน้ำมันในประเทศไทย    คุณสัญญาได้เชิญอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในกระทรวงพลังงานมาเล่าให้ฟัง ซึ่งผู้ใหญ่ท่านนี้เป็นข้าราชการระดับสูงในกระทรวงพลังงาน ได้ฟังท่านเล่าเเล้วขนลุก  คนไทยถูกหลอกมาตลอดว่าเมืองไทยไม่สามารถผลิตนำมันได้เองต้องนำเข้าจากต่างประเทศ   ท่านบอกว่าเมืองไทยมีกำลังผลิตได้ 1,000,000 บาร์เรล/วัน (ปตท.)  เมืองไทยใช้น้ำมันวันละ 700,000 บาเรล/วัน   เเละเมืองไทยส่งออกน้ำมันประมาณ100000 บาเรล/วัน    เเละที่เเย่กว่านั้น..น้ำมันที่ส่งออกไปขายในต่างประเทศราคาถูกกว่าที่ขายในเมืองไทยหลายบาทถ้าเทียบต่อลิตร    ตอนนี้มาเลเซียใช้น้ำมันเบนซินเเละดีเซลประมาณลิตรละ 20 บาทต้นๆ   ราคาที่ปรับขึ้นทีละ .50 บาทเป็นการขึ้นจากโรงกลั่นซึ่งราคาที่ปรับขึ้นไม่ได้มาจากต้นทุน   เเต่ป็นราคาที่ตั้งขึ้นมาลอยๆ โดยอ้างอิงจากตลาดที่ผันผวนมากที่สุด   ในที่นี้ท่านยกตัวอย่างตลาดสิงคโปร์   เเละอีกอย่างที่น่าตกใจ ท่านบอกว่าในประเทศไทยมี stock น้ำมัน 2 เดือนเเละหมุนเวียนอย่างนี้เรื่อยๆ   พอเวลากระทรวงปรับน้ำขึ้นพวกพ่อค้าเอาน้ำมันใน stock มาปรับขึ้นด้วย   คิดดูเอาเองว่าเป็นเงินเท่าไหร่   ไทยใช้ 700,000 บาเรล/วัน ( 1 บาเรล = 159 ลิตร )  2 เดือนกี่ลิตร ลิตรละ .50 บาท ลองคูณดู    บริษัทที่ได้กำไรเยอะมากคือ ปตท เพราะมีโรงกลั่น 5 โรง อีก 2 โรงเป็นของเอกชน   รวมในประเทศไทยมีโรงกลั่น 7 โรง เป็นของ ปตท 5 โรง    เเล้วท่านสรุปกำไรของปตทในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ประมาณปี 2540-2544 ปตท กำไรปีละ 22,000 ล้านบาทครับ    เเละที่สุดยอดกว่านั้น ปี 2545-2550 ปตทกำไรเพิ่มเป็น 50,000ล้านบาท/ปี    เเละที่สุดๆ คือ ในปี 2548 กำไร 195,000 ล้านบาท    ประชาชนตาดำ ๆ เสียค่าน้ำมันลิตรละ 44บาท   มาร่วมมือกันดีไหม...   สั่งสอนให้บทเรียนมันหน่อย เริ่มลงมือปฏิบัติการได้เลย  ขอเพียงช่วยกันกระจายข่าวไปให้มากที่สุด   สามัคคีคือพลัง...  ส่งมาให้อ่านกันเพราะอยากให้ราคาน้ำมันลดลงจริงๆ (ช่วยกันส่งต่อมากๆนะ)



(ข้อความจากไลน์)

อ้างภูมิพล สั่งให้จัดตั้งศูนย์บริการน้ำฯ เพื่อเอาห...

UNHCR ของสหประชาชาติให้เวลาประเทศไทย จัดการกับปัญหาชาวอุยกูร์ (Uighur)

UNHCR ของสหประชาชาติให้เวลาประเทศไทย จัดการกับปัญหาชาวอุยกูร์ (Uighur)



องค์กร
UNHCR ของสหประชาชาติ
ให้เวลาประเทศไทย จัดการกับปัญหาชาวอุยกูร์ (Uighur)
จำนวนกว่า 100 คน ที่ส่งให้กับจีนแผ่นดินใหญ่
โดยให้เวลาแก่ไทยในการจัดการปัญหานี้ให้เสร็จสิ้นภายใน 45 วัน
อะไรจะเกิดกับประเทศไทยต่อไป

ผมขอให้คำตอบแก่พี่น้องประชาชนชาวไทย โดยสังเขป ดังต่อไปนี้:




๑. นี่คือสัญญาณอันตราย ที่กำลังพาประเทศไทย ไปเป็นจำเลยในศาลนานาชาติ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป หรือ the European Human
Rights Court


๒. โดยมีคดี Mamatkulov and Askorov คำฟ้องเลขที่ 46827/99 และคำฟ้องที่ 46951/99 ของศาลสิทธิมนุษยชนของยุโรป เป็นตัวกำกับบท


๓. ในคดีดังกล่าวนี้ มี Turkey เป็นจำเลย และจำเลยแพ้คดี ต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้เสียหายทั้งสอง เกินกว่า 200,000 ยูโรดอลลาร์/คน


๔. วันนี้ตุรกี จะกลายเป็นโจทก์ โดยมี ประเทศไทยเป็นจำเลย


๕. ถ้าต้องจ่ายค่าเสียหายด้วยมาตรฐานการปรับไหม เพื่อชดใช้ค่าเสียหาย เป็นอย่างเดียวกัน



๖. เราจะต้องจ่ายค่าเสียหายในกรณีนี้ให้กับประเทศตุรกี
เป็นจำนวนเท่าใด?เพื่อไปจ่ายแก่ผู้เสียหายในยอดรวม อัตราแลกปลี่ยน บาทไทย :
ยูโรดอลลาร์ อยู่ที่ $ 1 = 42 - 45 บาทไทย โดยประมาณ


๗.
ไม่ใช่ว่าจ่ายในคดีนี้แล้วสำเร็จเสร็จสิ้น ใครก็ตามที่เข้าไปข้องเกี่ยวด้วย
จะถูกดำเนินคดีอาญา ในศาลอาญาพิเศษของ องค์การสหประชาชาติ ตามมา
โดยการ Refer Case ไปให้ฟ้อง และ ลงโทษ


๘. ตาม the Geneva Conventions, 1949 กำหนดการลงโทษ โดย the Hague Conventions, 1899 - 1907 อีกคำรบหนึ่ง


๙. โดยศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป เป็นผู้ Refer Case นี้ตามหลักการของ International Law


๑๐. ทีนี้ละสวย หมายถึงเลขจำคุกกี่ปีต่อคน จะได้รับการจำแนกแจกแจงไปยังฝ่ายบริหาร [เถื่อน] ของคสช. เป็นรายบุคคล


๑๑. หมายจับคงปลิวว่อนประเทศไทย นี่คือการกำจัดคณะ คสช.ออกไปจากทางแบบนิ่มนวล ของฝ่ายอำมาตย์ ผู้เป็นนาย


๑๒. อะไรจะขนาดนั้น "ท่านผู้นำ" กับพวก ทำใจให้สบายๆ ได้ ร้องเพลง "สบายๆ " ของเบริด โดยถ้วนหน้าคราวนี้.

เอวัง ก็มีด้วยประการ ฉะนี้.












Friday, July 17, 2015

ทางออกประเทศไทย อ.ชูพงศ์-ดร.เพียงดิน 17 ก.ค. 2558 ตอน เมื่อแม่น้ำห้าสายกระจายพิษ ประชาชนต้องทำอย่างไร?







ทางออกประเทศไทย อ.ชูพงศ์-ดร.เพียงดิน 17 ก.ค. 2558 ตอน เมื่อแม่น้ำห้าสายกระจายพิษ ประชาชนต้องทำอย่างไร?




Thursday, July 16, 2015

เจาะลึก ผลกระทบ กรณี กุยอูร์ และเรื่องการถอดถอน สส.ที่ขอแก้รัฐธรรมนูญ










PIANGDIN ACADEMY: แฉประวัติและข้อมูลเด็ด ปรีชา จันทร์โอชา

ประวัติ พลเอก ปรีชา จันทร์โอชา ว่าที่ ผบ.ทบ.- - - - - - - - - -พลเอก ปรีชา จันทร์โอชา เกิดเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม พ....

Posted by กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ on Thursday, July 16, 2015








สภาอภิวัฒน์ราษฎรเสรีไทย: PIANGDIN ACADEMY: Piangdin for Peace Academy: นักก...









นักกฏหมายไทยในประเภท หรือสไตล์ "ศรีธนญชัย" กำลังจะสร้างตวามฉิบหายให้แก่บ้านเมืองไทย พี่น้องคนไทยทั้หลาย พึงสดับตรับฟัง

นี่คือข้อชี้แนะ ด้วยหัวใจที่เปี่ยมล้นไปด้วยความหวังดี และ บริสุทธิ์ใจ


๑.การไปเที่ยว ออกกฏหมายเถื่อนในเรื่อง ปปช.
และบัญญัติให้มีโทษถึงขั้นประหารชีวิต
หากเจ้าหน้าที่ผู้ใดกระทำการอันเป็นการคอร์รัปชั่น (Corruption)
ให้คนไทยตื่นเต้นเล่น

๒. อย่าไปเชื่อในน้ำยานี้ เพราะผมต้องขอให้พี่น้องประชาชนคนไทยไปอ่านตัวบทกฏหมาย ในเรื่องนี้ให้ดีๆ

๓. นี่เป็น การที่ประเทศไทย พยายามออกกฏหมายมาล้อ Convention against Corruption, 2003

๔. ที่ประเทศไทย โดยนายกรัฐมนตรีคนดีของเปรม ไปประกาศเข้าร่วม และ ให้สัตยาบันเอาไว้ในวันที่ ๑ มีนาคม ปี ค.ศ.2011 หรือปี พ.ศ.๒๕๕๔

๕. ในสนธิสัญญานี้ บัญญัติให้เรื่อง "ฟอกเงิน" เป็นความผิดทางอาญาอย่างหนึ่ง


๖.วิธีการออกกฏหมายเลี่ยง ก็คือ การไปแปลความออกมา
เป็นภาษาไทยให้ใกล้เคียง ภาษาอังกฤษ ให้มากที่สุด แล้วนำมา
ตีความเพื่อสร้างช่องโหว่ (Loop - Hole) ของกฏหมาย

๗.
แล้วนำไปเขียนเป็นกฏหมาย วิธีการเช่นนี้ เรียกได้ว่า "เป็นการสร้างกฏหมาย
เพื่อหลีกเลี่ยงเจตนารมย์ ของกฏหมาย อันมีที่มาจากสนธิสัญญา
[พันธกรณีจากสนธิสัญญา] "

๘. การกระทำ จึงไปขัดหรือแย้งกับสนธิสัญญา ที่ตนมีภาระผูกพันอยู่ ในตัวเอง [Per se']

๙. จึงทำให้ประเทศไทย ไปกระทำการฝ่ายเดียว หรือ เป็น [Unilateral Action] เพื่อแก้ไข บทสนธิสัญญาให้ผ่อนคลาย หรือ ย่อหย่อนลง

๑๐. เพื่อประโยชน์ในการใช้ หรือไม่ใช้กฏหมายกับ คนบางกลุ่ม บางพวก

๑๑.จึงทำให้กฏหมายนี้ ต้องตก เป็นโมฆะ เพราะไปขัดหรือแย้ง กับ ความตาม Convention against Corruption, 2003 ที่บัญญัติไว้ในทันที


๑๒.เพราะขาดสภาพบังคับ ในทางกฏหมาย ตามนัยของคำพิพวกษาของ ศาลโลกเดิม คือ
the Permanent Court of International Justice, PCIJ ในคดี the Greco -
Bulgarian Communities Case ที่พิพากษาไว้ในปีค.ศ.1930

๑๓.
มีผลบังคับ ตามกฏบัตรสหประชาชาติ หรือ the Charter of United Nations
บทบัญญัติที่ 92 - 95 (ให้ไปพลิกอ่านศึกษา
ดูเถิดพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งหลาย)

๑๔. โดยศาลโลก เดิมพิพากษาว่า
"กฏหมายภายใน ไม่สามารถออกมาในภายหลัง ซึ่งเป็น การแก้ไขพันธกรณี
จากสนธิสัญญา เพียงฝ่ายเดียว หรือ Unilateral Action กฏหมาย อันมีที่มาจาก
สนธิสัญญา ย่อมอยู่เหนือกว่า กฏหมายภายในของ รัฐคู่กรณี ที่เป็น รัฐคู่ภาคี
ของสนธิสัญญา ในทุกกรณี ข้อต่อสู้เช่นนี้ ศาลโลก ไม่อาจบังคับบัญชาให้ได้"


๑๕. และมาย้ำหัวตะปูของ หลักการตามกฏหมายเช่นนี้
โดยศาลสถิตย์ยุติธรรมสังคมประชาคมเศรษฐกิจยุโรป หรือ the European Court of
Justice ในคดี "Flaminio Costa v. E.N.E.L.

๑๖. ในวันนี้ EU เข้ามาอยู่ใน ASEAN เต็มตัวตั้งแต่ ปีค.ศ.1995 แล้ว เขาจะยอมให้คุณทำอย่างนี้เหรอ?

๑๗. ประเทศไทย ต้องไปตกเป็นจำเลย ในศาลยุติธรรมระหว่างชาติ แล้วถูกปรับในแต่ละ คดีเป็นเงินหลายแสนล้านยูโรดอลลาร์

๑๘. สมาชิกส.น.ช.[เถื่อน] ผู้ร่วมกันผ่านกฏหมายฉบับนี้ คุณรับเรื่องราวนี้ ไหวนะ!!!

๑๙. ผม จึงมีความจำเป็น ต้องเตือนพี่น้องประชาชนคนไทย ให้ช่วยกันระแวดระวังภัย อันจะมีมาจากนอกประเทศ หรือต่างประเทศ

เอวัง ก็มีด้วยประการ ฉะนี้.











Tuesday, July 14, 2015

ปฏิวัติปวงชน "มดแดงล้มช้าง: แรงเสียดทานประชาธิปไตย ที่มา ไทยรัฐออนไลน์ โดย หม...

เป็นทางการเป็นที่เรียบร้อย ความตกลง ความร่วมมือความช่วยเหลือ แม้แต่การเดินทางมาเยือนประเทศไทย ถูกระงับทั้งหมด











แรงเสียดทานประชาธิปไตย



ที่มา ไทยรัฐออนไลน์

โดย หมัดเหล็ก

13 ก.ค. 2558



ที่ประชุมสหภาพยุโรป ลงมติ คว่ำบาตร ประเทศไทยอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อย ความตกลง ความร่วมมือความช่วยเหลือ แม้แต่การเดินทางมาเยือนประเทศไทย ถูกระงับทั้งหมด



บนเงื่อนไขจนกว่าประเทศไทยจะมีการเลือกตั้ง มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งไปแล้วค่อยคุยกันใหม่ ตอนนี้ระงับความสัมพันธ์ชั่วคราว ซึ่งไม่เฉพาะ อียู เท่านั้น ทั้งสหรัฐฯ ทั้งประเทศมุสลิม หรือกรณี ประเทศตุรกี ที่ออกแถลงการณ์ ต่อกรณีที่ไทยส่ง ชาวอุยกูร์กลับประเทศจีน และมีการกระทำที่ขัดต่อหลักการมนุษยชน ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยยิ่งถูกเพ่งเล็ง เข้าไปอีก



การเคลื่อนไหวทางการเมืองในประเทศไทย แม้แต่เข็มหล่น ก็รู้กันไปทั่วโลก การจับกุมนักศึกษา และผู้ที่เคลื่อนไหวทางการเมือง หรือการเข้มงวดตรวจสอบการทำงานของสื่อ อียู หยิบมาเป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่ คว่ำบาตร ประเทศไทยเช่นกัน



ความสัมพันธ์ปัจจุบัน เป็นเพียงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจแบบผิวเผิน ที่ประเทศเหล่านั้นจะได้ประโยชน์จากประเทศไทยมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการคมนาคม หรือการกู้ยืมเงิน แต่ในหลักการประชาธิปไตย ประเทศเหล่านั้นก็ยังยืนหยัดจะเอารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอยู่ดี



ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป แรงเสียดทานจากระบอบประชาธิปไตย จะทวีความเข้มข้นขึ้น รัฐบาลจะใช้กำลังทหารเข้าปราบปรามก็ยิ่งจะส่งผลให้สถานการณ์เลวร้ายมากขึ้นเช่นกัน



นี่ไม่ใช่หมากเกมทางการเมือง ที่ คสช.หวาดระแวง แต่เป็นปรากฏการณ์ความจริงวันนี้ ที่ไม่ว่าประเทศไทย หรือประเทศไหนก็ตาม ที่ไม่ได้อยู่ในวิถีของระบอบประชาธิปไตยก็จะเจอกับมาตรการเหล่านี้



อยากให้ดูตัวอย่างประเทศเพื่อนบ้านที่จะมีการเลือกตั้งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า มีความพยายามจากฝ่ายรัฐบาลทหาร ที่จะแก้รัฐธรรมนูญ จับฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลมัดมือมัดเท้ามัดปาก ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล



ทำทุกวิถีทางที่จะรักษาอำนาจเอาไว้ให้ได้



แต่ในที่สุดแล้วความหมายของระบอบประชาธิปไตย คืออำนาจสูงสุดอยู่ที่ประชาชน จะใช้ปลายกระบอกปืนชี้ไปทางไหน ก็ไม่ยั่งยืนถาวร เท่ากับอำนาจการตัดสินใจของประชาชน



จะจินตนาการให้พรรคการเมืองต้องเป็นอย่างนั้น ให้นายกฯ ต้องมาจากคนนอก ให้พรรคนี้ต้องจับมือกับพรรคโน้น ให้คนนี้อยู่ให้คนนั้นไป แล้วการยึดอำนาจจะไม่สูญเปล่า ก็ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีของประชาธิปไตยได้



เพราะระบอบประชาธิปไตยจะต้องไม่ถูกครอบงำทางความคิดจากคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ไม่ได้ถูกลิขิตโดยคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และไม่ละเมิดความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่








สภาอภิวัฒน์ราษฎรเสรีไทย: คนไทยต้องอ่าน เพื่อความอยู่รอดในภาวะวิกฤติเบื้องหน...




ข้อความจากไลน์ครับ



รีบอ่าน คุณโฆสิต ผู้บริหาร แบงค์กรุงเทพ เตือน.                                                      

โดยมีคนสรุป มา เตือนพนักงาน ของภาค/สาขา ตน



สรุปจากการสัมมนาเล่าสู่กันฟังเมื่อวันศุกร์ที่ 10 ก.ค. 58 ที่ปทุมธานี กับท่านประธานโฆสิตท่านเตือนว่า



สถาการณ์ ทั่วโลกไม่ดีมากๆทั้งสหรัฐอเมริกา/ยูโรโซน/AEC / ประสบกับตลาดหุ้นทั่วโลกโดยเฉพาะจีน ยังไม่นิ่ง/ภายในประเทศส่วนใหญ่โดยเฉพาะประเทศไทยประสบภัยแล้งรุนแรง



สิ่งที่เราทุกคนต้องทำ



1. กรณีถ้าเป็นเจ้าของธุรกิจคือ



1.1. ห้ามขยายกิจการ

1.2. ให้รักษาสภาพคล่องคือเงินสดไว้มากๆ



2.กรณีเป็นพนักงานกินเงินเดือนคือ

2.1 ห้ามตกงานเด็ดขาด/งานจะหายาก/เพราะช่วงนี้มีหลายบริษัทเริ่มปลดพนักงานเพราะไม่มีคำสั่งซื้อ หลายบริษัทยอดขายลดลงกว่า50%



2.2 ทำหน้าที่ตนเองในปัจจุบันให้ดีที่สุด/เร่งพัฒนาความรู้ทุกด้านให้ตัวเองให้มีความรู้ความชำนาญเฉพาะด้านมากขึ้นเพราะ เงินเดือน/รายได้จะได้เพิ่มมากขึ้นได้แก่

2.2.1 ภาษาอังกฤษ/ภาษาจีน/ภาษาพม่า/ภาษาเขมร เป็นต้น

2.2.2 สอบ IC ให้ผ่าน

2.2.3 มีความชำนาญเรื่องสินเชื่อบ้าน

2.2.4 เรียนต่อปริญญาโท



กรณีเป็นหมอหรือเป็นวิศวกร ควรไปเรียนเพิ่มเติมให้มีความชำนาญเฉพาะด้านเพิ่มมากขึ้น



3. ให้ทุกคนสังเกตุจะเห็นว่าทุกธนาคารตอนนี้มีมาตรการที่สำคัญเหมือนกันคือ



1. เน้นหารายได้/ให้พนักงานทุกคนทุกสาขาช่วยทำกำไรให้เพิ่มมากขึ้นทุกวิถีทาง ตามที่ตัวเองถนัด

2.เน้นการประหยัดค่าใช้จ่ายทุกชนิด

( ทั้ง 2 ข้อ ท่านสามารถนำไปปรับใช้กับครอบครัวของท่านจริงๆได้ ตั้งแต่วันนี้รีบเล่าสถานการณ์ปัจจุบันให้สมาชิกในครอบครัวฟังจะได้ช่วยกันทุกคน เช่น



1.ออมเงิน/รักษาสภาพคล่องคือเงินสด/ไม่ใช่จ่ายฟุ่มเฟือยอะไรไม่จำเป็นต้องอดใจไว้ซื้อปีหน้าหรือไม่ซื้อเลยในช่วง1-3 ปีนี้

2. ต้องขยันอดทนเพิ่มมากขึ้นช่วยกันหารายได้ถ้ามีหนทางทำได้

รู้แบบนี้แล้วทีมงานภาคกลาง 4 ทุกคนโปรดปรับทัศนคติ ทำงานด้วยความเข้มแข็งอดทนเข้าใจสถานการณ์เพื่อที่เราทุกคนจะผ่านเหตุการณ์ในปี2558 ไปได้เรียบร้อยทุกคน



( ขอย้ำว่าปีนี้เผาหลอก ปีหน้าเผาจริง ตั้งแต่เดือนนี้โจรขโมยจะมีชุกชุมเพิ่มขึ้นมากๆมากกว่ายุง ทุกสาขาทุกบ้านให้ระมัดระวังดูแลบ้านช่องให้ดีๆและ อย่าไปเที่ยวดึกดื่นหรืออยู่ในที่เปลี่ยวให้สังเกตุจากข่าวรายวันช่วงนี้จี้ปล้นร้าน7-11/ จี้ร้านขายทอง/จี้ธนาคาร/ปล้นรถขนเงินสดธนาคารทุกวัน และจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเป็นต้น )



" เก่งไม่กลัวแต่กลัวช้า

       รวดเร็ว แม่นยำ ยั่งยืน "



"ไม่ว่าท่านจะทำหน้าที่อะไรของทีมงานภาคกลาง 4 ขอย้ำให้ท่านทำหน้าที่ของท่านให้ดีที่สุด แบบเต็มกำลังความสามารถ ท่านก็จะปลอดภัยในปี 2558 เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกันทุกสาขาทุกคน"



รัก&ห่วงใยขั้นสูงที่สุดที่เคยมีมา

พรรณี























Sunday, July 12, 2015

ทุบโต๊ะข่าว : รุ่นพี่ธรรมศาสตร์ แสดงความ "กากควาย ๆ" ประกาศไม่รับพฤติกรรม 14 นักศึกษา...

ทุบโต๊ะข่าว : รุ่นพี่ธรรมศาสตร์ แสดงความ "กากควาย ๆ" ประกาศไม่รับพฤติกรรม 14 นักศึกษา...










เดินหน้าประเทศไทย เดินหน้าภารกิจต้านพระพุทธศาสนา 12/07/2015








Sunday, July 5, 2015

PIANGDIN ACADEMY: เบื้องหลังเบื้องลึก และความจริง เรื่อง การค้าข้าวไ...





เรียน ดร.







           ระบบการค้าข้าวไทยมีการพยายามเปลี่ยนโครงสร้างในสมัยปี51(นายกสมัคร)ถึงขั้น คุณมิ่งขวัญลั่นวาจาว่าถ้าข้าวไม่ถึงเกวียนละ18,000ห้ามขาย รัฐเริ่มมีแนวคิดที่จะขายข้าวตรงโดยดึงสัดส่วนออกจากมือโรงสีซึ่งข้าวส่วนที่ขายตรงเป็นข้าวจากผลผลิตส่วนเกิน สร้างความไม่พอใจให้กับระบบขายข้าวข้ามชาติเป็นอย่างมากถึงขั้นยกชุดไปคุยเจรจากับคุณยรรยง ถึงกระทรวง แต่ตอนนั้นเป็นแค่การต่อรองราคาซึ่งไม่เป็นที่พอใจเนื่องจากรัฐต้องการขายตรง (ต่อมาเรียกติดปากกันว่าจีทูจี) จึงเป็นส่วนหนึ่งที่รัฐบาลคุณสมัครล้มและคุณมิ่งขวัญเลิกเล่นการเมือง  
           ข้าวได้มีการค้างสต๊อตตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเนื่องจากยุคคุณสมชายไม่ได้เข้าบริหารเต็มที่ต้องหนีไปหนีมาจากม๊อป เมื่อเข้าสู่ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ได้หยิบชูนโยบายนี้กลับขึ้นมาเป็นที่ไม่พอใจอย่างมากกับผู้ค้าข้าวระหว่างประเทศ(ไม่ใช่สมาคมชาวนาไทย) และเจ้าของโรงไซโล(ไม่ใช่โรงสี) ถึงขั้นสั่งว่าต้องทำประกันราคาไม่ใช่รับจำนำ เพื่อที่เขาจะกำหนดต้นทุนการผลิตได้ แต่รัฐบาลตัดสินใจแถลงเป็นนโยบายถ้าไม่ปฏิบัติก็ผิดกฏหมายถ้าปฏิบัติมีศัตรูตัวใหญ่รอชนอยู่  สุดท้ายเลือกที่จะชน โดยติดต่อการค้าข้าวแบบจีทูจีต่อไป ทำให้เกิดการชัตดาว์นระบบข้าวไทยทั้งระบบไม่ให้ซื้อไม่ให้ขายไม่ให้ขยับไม่เบิกจ่ายเงิน  ตอนนี้คงถึงเวลาสั่งสอนผู้ที่ไม่เชื่อฟังแล้วหล่ะครับ
(ปล.ข้าวสาร1ตันใช้ข้าวเปลือกประมาณ1.6ตัน ส่วนราคาที่จะกำหนดนั้นคงต้องให้ชาวนาได้รู้ราคาตลาดโลก จริงแบบเรียลทามจึงจะแก้ปัญหาได้ ถ้ามีสต๊อคมาร์เกตวิ่งแบบไทม์สแควได้คงดีไม่น้อย ส่วนรัฐมีหน้าที่คอยพยุงในขณะที่เกิดความผันผวนทางตลาดซึ่งรัฐจะต้องรู้ก่อนอยู่แล้วจากกระทรวงต่างประเทศ ส่วนเรื่องคลิปที่ส่งมานั้นเกิดจากราคาข้าวตลาดโลกตกลงมากทำให้ต้องหาคนรับกรรม จะเอาบริบทและเงื่อนเวลาที่ต่างกันมาใช้กับสิ่งเดียวกันคงเป็นไปไม่ได้ครับ เพราะถ้าเอาราคาข้าวยุคคุณสมัครมาพูดตอนนั้นตันละสามหมื่นกว่าตอนนี้รัฐจากทำขาดทุนคงกลายเป็นกำไรมหาศาลมันไม่ใช่การทำเพื่อชาติแต่เป็นการทำลายล้างจากความแค้นส่วนกลุ่มบุคคลมากกว่าครับ)
     หมายเหตุ  ผมได้ดูที่ดร.วางในบลอคแล้วครับถ้าไม่รบกวนเกินไปช่วยเซนเซอร์ตัวบุคคลเชิงคู่สนทนาได้จะเป็นพระคุญอย่างสูง 
    ***เช่น"น้องชายเหล่าธรรมทัต  ทำงานให้เจ้าสัว "หรือ"ผก TMB"  นี่เป็นการระบุคู่สนทนาทันทีเลยครับ        
    ส่วนถ้าเป็นชื่อคนในเชิงข้อมูลคงไม่มีปัญหาอะไรครับ(มีความกังวลเล็กน้อย)                                                                                                                  



                                                                                                                                             
ด้วยความเคารพอย่างสูง








PIANGDIN ACADEMY: แถลงการณ์ของกลุ่มคนไทยรักประชาธิปไตยในสหราชอาณาจัก...

แถลงการณ์ของกลุ่มคนไทยรักประชาธิปไตยในสหราชอาณาจักร เรียกร้อง

"ปล่อยนักศึกษา 14 คน และ นักโทษทางการเมือง"









พวกเราคนไทยที่พำนักอาศัยอยู่ในสหราชอณาจักร ไม่รับอำนาจรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร มีความกังวลกับรัฐบาลเผด็จการที่อ้างว่ากำลังคืนความสุขให้กับสังคม แต่แท้จริงแล้ว ความสุขที่พวกเขาหยิบยื่นให้เป็นเพียงความสุขจากการเห็นคนคิดต่างต้องอยู่อย่างหวาดกลัว ความสุขจากคำโฆษณาชวนเชื่อ ความสุขจากการเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ทั้งที่สิ่งเดียวที่พวกเขาทำเป็นการกำราบปราบปรามประชาชนคนเห็นต่าง



พวกเราถือว่าการจับกุมนักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่ ภายใต้เหตุผลการขัดคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 ซึ่งออกตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฯ อันเป็นกฎหมายที่ออกมาโดยอาศัยอำนาจที่ได้จากการลิดรอนสิทธิและเสรีภาพของ ประชาชนผ่านการรัฐประหารนั้น ไม่ถือว่าเป็นกฏหมาย เนื่องจากเป็นอำนาจที่ได้มาโดยมิชอบ



พวกเราขอยกย่องความกล้าหาญของนักศึกษาทั้ง 14 คน พวกเขาไม่เพียงเป็นตัวแทนของปัญญาชน ที่คิด เขียน วิพากษ์วิจารณ์ แต่ยังเป็นตัวแทนของประชาชนคนธรรมดาที่ออกมาแสดงออกเพื่อยืนยันในสิทธิที่ตนพึงมี โดยยอมแลกกับเสรีภาพอันน้อยนิดที่มีอยู่ภายใต้รัฐเผด็จการทหารไทย



โดยในวันนี้พวกเขาถูกกักขัง พวกเขาถูกปฏิบัติราวกับอาชญากร เพราะพวกเขาคิดและแสดงออกอย่างสันติ ตามสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยที่ สอดรับกับหลักการและทฤษฎีอันเป็นสากล พวกเราเห็นว่าประชาชนทุกคนมีสิทธิ์ที่จะมีส่วนร่วมทางการเมือง ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะคิด พูด เขียน และแสดงความคิดเห็นของตนโดยสันติ



พวกเรามีข้อเรียกร้อง 4 ข้อดังต่อไปนี้ :

1) ปล่อยตัวนักศึกษาทั้ง 14คนทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข และยุติการดำเนินคดีอาญาต่อนักศึกษาและประชนผู้รักประชาธิปไตยที่ชุมนุมในที่สาธารณะทุกคน

2) หยุด คุกคาม ครอบครัวของนักศึกษาที่ถูกจับกุม ทั้ง 14 คน รวมทั้งอาจารย์ และประชาชนในสังคมผู้รักประชาธิปไตที่สนับสนุนการเคลื่อนไหวของนักศึกษาดังกล่าว

3) ปล่อยนักโทษทางการเมืองทั้งหมดโดยไม่มีเงื่อนไข

4) สุดท้ายให้รัฐบาลเผด็จการทหาร คสช. เคารพสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของพลเมืองไทย โดยยุติการนำพลเรือนขึ้นศาลทหาร



เผด็จการจงพินาศ ประชาชนจงเจริญ

กลุ่มคนไทยรักประชาธิปไตยในสหราชอาณาจักร

5 กรกฎาคม 2558















Friday, July 3, 2015

PIANGDIN ACADEMY: ประยุทธ์ กับการรับใช้วาระอำมาตย์และคนโง่ ต่อกรณี 3...

คลิป ประยุทธ์ โชร์ความโง่ พ่นเรื่อง30 บาทรักษาทุกโรคทำ ร.พ เจ๊ง (ไม่เอา"30บาท" แต่ซื้อ"เรือดำน้ำ" ไอ้สันดาน) "ประย...

Posted by Red Thai on Thursday, July 2, 2015








PIANGDIN ACADEMY: ทำไม เพื่อนร่วมห้อง ตอนม.ต้น มาพบกัน โดยคนหนึ่งเป็...

ทำไม เพื่อนร่วมห้อง ตอนม.ต้น มาพบกัน โดยคนหนึ่งเป็นผู้พิพากษา อีกคนเป็นผู้ต้องหา???








ใครจะคาดการณ์ได้ว่าวันหนึ่งเพื่อนร่วมชั้นเรียนจะมาพบกันในศาลโดยคนหนึ่งเป็นผู้พิพากษาอีกคนเป็นจำเลยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น...

Posted by บีบีซีไทย - BBC Thai on Friday, July 3, 2015

พล.อ.ประยุทธ์แนะอาหารทะเลแพง ทานอย่างอื่นแทนไปก่อน










Overview : การจับกุม 14 นักศึกษา ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ 3-7-2015










PIANGDIN ACADEMY: ทางออกประเทศไทย 3 ก.ค. 2558 อ.ชูพงศ์-ดร.เพียงดิน ต...

 
ทางออกประเทศไทย 3 ก.ค. 2558 อ.ชูพงศ์-ดร.เพียงดิน ตอน กับดักเกมเลือกตั้ง เด จา วู & สรุปสถานการณ์ประจำสัปดาห์























Thursday, July 2, 2015

PIANGDIN ACADEMY: โครงการฝนหลวง คือโครงการ "ทำลาย" มากกว่า "ต้องการช...


เมื่อสิบกว่าปีก่อน ผู้เชียวชาญเกษตรอิสราเอล บอกว่า

"เสียดายที่มีโครงการฝนเทียม มีวิธีที่เอาน้ำมาช่วยในการเกษตรในไทย
มีเยอะเลย ง่ายกว่า และถูกกว่าฝนเทียมตั้งมาก
เช่น สูบน้ำจากแม่น้ำโขงขึ้นมา ไม่กี่สิบกิโล ก็ชุ่มฉ่ำไปทั้งอีสานแล้ว
ง่าย สบาย ถูก เป็นจริง และเห็นผลเร็ว


(ส่วน เกาหลีใต้ เสนอโครงการผันน้ำงึม จากลาว โดยยทางท่อ
มูลค่า 7.6 หมื่นล้าน ให้นายกยิ่งลักษณ์ ซึ่งนายกเห็นด้วย
ต้องยุบสภา และถูก ตลก. ตัดสินให้พ้นตำแหน่งนายกเสียก่อน)

ของอิสราเอลต้องเดินท่อน้ำจากทางเหนือ (ที่มีทะเลสาบใหญ่)
ลงไปทางใต้ (ที่แห้งแล้ง) เป็นร้อยๆ กิโล เรายังทำได้เลย

อิสราเอลเคยบอกไทยไปแทบทุกครั้งที่คุยกันเรื่องนี้
แต่เราก็ไม่เข้าใจ ว่าทำไมเขาไม่ทำ ทั้งๆ ที่อิสราเอลพร้อมสนับสนุน
ทั้งวิชาการ เทคโนฯ และเงินทุน (บางส่วน) ในการช่วยไทย
สูบน้ำจากแม่น้ำโขงขึ้นมาใช้ในการเกษตร"

และ

"ฝนจริงๆ ของไทยมีมากเกินพอ ที่ที่แล้งฝนที่สุดในเมืองไทย
ยังวัดปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยได้มากกว่า พื้นที่ที่ฝนตกมากที่สุดในอิสราเอล

ถ้าไม่อยากสูบน้ำจากแม่น้ำโขง ก็แค่หาวิธีเก็บน้ำฝน
(อย่างไม่ต้องสร้างเขื่อน) เลยก็ได้ เก็บได้พอใช้แน่นอน
อิสราเอลแนะไทยไปหลายครั้งแล้ว
แต่ทำไมไม่ไปลองทำ ก็ไม่รู้ ยังจะ (ดันทุรังกัน) เรื่องฝนเทียม ทำไม"












ประมวลภาพพลังพี่น้องไทย ในญี่ปุ่น ฉีกหน้าประยุทธ์ ...





ฝนที่ตก หยุดพี่น้องไม่ได้...
Free The 14
Free Thailand

สุดยอดจริง ๆ พี่น้องไทยในญี่ปุ่น



























Piangdin for Peace Academy: PIANGDIN ACADEMY: อุบัติการณ์ดาวดิน กับประชาธิปไตย...

อุบัติการณ์ดาวดิน กับประชาธิปไตยอันสมบูรณ์ภายใต้ คสช.

Fri, 2015-07-03 00:43






ก่อนหน้าที่เราจะเป็นสักขีพยาน วันยึดอำนาจรัฐประหาร วันที่ 22 พฤษภาคม
2557 สังคมไทยรู้จัก “นักศึกษากลุ่มดาวดิน” เพียง กลุ่มนักศึกษาเล็กๆ
ที่ออกมาช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เหมืองทองคำ ในจังหวัดเลย
ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม

ล่วงเลยจากวันยึดอำนาจรัฐประหารมานานนับปี
ก่อนการอุบัติขึ้นของแรงกระเพื่อมไหวครั้งใหญ่ของการเมืองภายหลังรัฐประหาร
การปรากฎตัวของกลุ่มนักศึกษาดาวดิน และนักเคลื่อนไหวบางคน
ที่มารวมกลุ่มกันนั่งจ้องนาฬิกาที่ลานหน้าหอศิลป์ฯ ในคืนวันที่ 22 พฤษภาคม
2558 ครบรอบ 1 ปี การรัฐประหารและบริหารประเทศของคสช.
จวบจนนำไปสู่การเข้าสลายการชุมนุม และยื่นฟ้องเหล่านักศึกษา 14 คนอย่างลับๆ
ผ่านเอกสารที่ส่งไปตามบ้าน และวันที่ 24 มิถุนายน 2558
กลุ่มนักศึกษากลุ่มนี้ออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง เพื่อประกาศเจตนารมณ์ต่อต้าน
คสช. ซึ่งแน่นอน พวกเขาถูกจับกุมในเวลาต่อมา ด้วยหมายจับจากศาลทหาร
ในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ที่ห้ามมิให้ชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน
และห้ามต่อต้าน คสช. และทางกลุ่มนักศึกษาไม่ขอยื่นประกันตัว


อุบัติการณ์ครั้งนี้คงผิดจากความคาดหมายของหน่วยงานความมั่นคงพอสมควร เพราะ
“ไฟ” ถูกจุดติดขึ้นมา ภายหลังการจับกุมดำเนินคดีกับเหล่านักศึกษา และ
การออกมากล่าวหาว่า การเคลื่อนไหวของ 14 นักศึกษานั้น
“มีเบื้องหลังไม่บริสุทธิ์” และ “มีกลุ่มการเมืองอยู่เบื้องหลัง”
รวมถึงกระแสต้านจากสังคมออนไลน์ที่กล่าวหาว่าพวกเขา “ถูกจ้างมา” ซึ่งผิดคาด

เพราะเกิดกระแสสนับสนุนเหล่านักศึกษาขึ้นมาสวนกระแสดังกล่าวจากทั้งในและนอก
ประเทศ และมีท่าทีว่าจะไม่หยุดลงโดยง่าย
ซึ่งเป็นกระแสเรียกร้องต่อรองกับรัฐบาล คสช.ให้ปล่อยตัว 14
นักศึกษาโดยไม่มีเงื่อนไข การล่ารายชื่อ โดยจากทั้งคณาจารย์ นักวิชาการ
นักคิดนักเขียนมากมาย นักศึกษากลุ่มอื่น แม้กระทั่งองค์กรระหว่างประเทศ
สหภาพยุโรป และ
สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติก็ร่วมออกแถลงการณ์กดดัน
คสช. จนเกิด “แรงกระเพื่อมไหว” ครั้งใหญ่

ใหญ่จน พล.อ.ประยุทธ์
ขอใช้สิทธิ์ “เลี่ยงไม่ตอบคำถามต่อสื่อมวลชน” ในวันที่ 29
มิถุนายนก่อนเดินทางไปประชุม ครม.สัญจรที่จังหวัดเชียงใหม่
และอาจจะนับเป็นครั้งแรกที่ พล.อ.ประยุทธ์ใช้สิทธิ์นี้
นับจากรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นต้นมา

ใหญ่จนคนมีตำแหน่งสูงๆ
ในรัฐบาล พากันออกมาประสานเสียงว่า “รู้ตัวคนอยู่เบื้องหลังกลุ่มนักศึกษา”
และ “เตรียมเล่นงานคนอยู่เบื้องหลังนักศึกษา” หลังจากตรรกะวาทกรรม
“ไม่เห็นด้วยกับ คสช.คือต้องการความไม่สงบ” ใช้ไม่ได้ผลนัก
แต่นั่นก็ไม่อาจกลบแรงกระเพื่อมไหวครั้งนี้ได้

จนกระทั่ง อนุสิษฐ
คุณากร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ต้องออกมาตั้งคำถามต่อสังคมว่า
การเคลื่อนไหวของนักศึกษากลุ่มนี้นั้น “สร้างประโยชน์อะไรให้แก่ประเทศบ้าง”
เพราะขณะนี้รัฐบาลกำลังเดินหน้าปฏิรูปเพื่อลูกหลานคนไทยทั้งประเทศ


สิ่งนี้ย้อนไปถึง คำกล่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรี
ที่พูดบ่อยครั้งตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ที่พูดว่า คสช.จะนำ
ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์มาสู่ประชาชน และ ตัวท่านคือทหารประชาธิปไตย




ในการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบสากลนั้น ประชาชนมีสิทธิ์ที่จะต่อรองกับรัฐ
ทั้งเรื่องกฎหมายที่เป็นไม่ธรรม การร้องเรียนสิ่งที่ประชาชนต้องการ
การตีฆ้องร้องป่าวต่อความไม่เป็นธรรม รวมถึงสิทธิที่จะเอ่ยปากต่อต้านรัฐบาล
ดั่งเช่นที่ม๊อบทั้งหลายทำมานับ 10 ปีที่ผ่านมา ที่ใช้การต่อรองแบบ
รวมกลุ่มเป็นมวลชนเพื่อสร้างพื้นที่ต่อรองทางการเมืองกับรัฐบาล ซึ่งนับเป็น
“เสียง” ที่ดังที่สุดของประชาชนเท่าที่ระบอบการเมืองการปกครองจะมอบให้ได้


แต่นับตั้งแต่ กฎอัยการศึกออกมาบังคับใช้ จนถึง คำสั่ง คสช.
ออกมาประกาศใช้ พื้นที่ต่อรองของประชาชนก็หายไป “เสียง”
ถูกกลบหายด้วยอำนาจมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญชั่วคราว และคำสั่งคสช.
คือตัวแทนอันเป็นรูปธรรมของภาวะ “ห้ามเถียง” “ห้ามคัดค้าน” “ห้ามต่อต้าน”
ที่ คสช.ใช้กับประชาชน ซึ่งไม่มีประเทศประชาธิปไตยที่ไหนเขาทำกัน
ไม่เคยมีการรัฐประหารครั้งใดเหมือนครั้งนี้ แม้ในมาตรา 4
แห่งรัฐธรรมนูญชั่วคราวที่เขียนรองรับถึงสิทธิพลเมืองที่ต้องได้รับการ
คุ้มครองก็ไร้ความหมาย อาจเพราะคำสั่งคสช. อยู่เหนือรัฐธรรมนูญชั่วคราว


ตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR)
ได้ระบุถึงสิทธิเสรีภาพพื้นฐาน คือสิทธิเสรีภาพที่จะพูดหรือแสดงออก
หากไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น การมี คำสั่งคสช.
คือการลิดรอนสิทธิเสรีภาพอย่างไม่ต้องสงสัย
และแน่นอนว่าประเทศประชาธิปไตยโดยทั่วไปแล้ว
ประชาชนมีสิทธิที่จะต่อรองกับรัฐเพื่อยกเลิกกฎหมายที่ริดลอนสิทธิเสรีภาพ
ขั้นพื้นฐานของพลเมือง เพราะมิเช่นนั้น “กฎหมาย” จะกลายเป็นเพียง “คำสั่ง”
ของรัฐแต่เพียงฝ่ายเดียว ที่เอาไว้กดขี่พลเมืองของรัฐ



วันที่ 22
พฤษภาคม 2558 ดาวดินจึงร้องตะโกนอย่างเงียบสงบ
ในพื้นที่การเมืองซึ่งไม่มีที่ให้เสียงใดได้เล็ดลอดออกจากความเงียบภายใต้
“คำสั่ง คสช.” ไปได้
ในพื้นที่ที่พวกเขาให้คำมั่นสัญญาว่าจะเกิดประชาธิปไตยที่สมบูรณ์
กลุ่มนักศึกษาและนักเคลื่อนไหวไร้อาวุธ แค่เพียงพูดในสิ่งที่ตนเชื่อ
นั่งมองนาฬิกาและชูป้ายผ้า นั้นมีความผิด



ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา
“นักศึกษา” คือตัวแทนของพลังบริสุทธิ์ พลังแห่งปัญญาชน จวบจนยุคสมัยของคสช.
ที่ภาพของนักศึกษา ถูกวาทกรรมป้ายสีให้พวกเขากลายเป็นทาสของทุน
ถูกซื้อและชักใยอยู่โดยผู้อื่น
ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองไทย


และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดนั้น คือความเงียบ ที่ไม่ใช่ความสงบ
แต่เป็นความเงียบสงัดที่รัฐได้ชิง “เสียง” ของประชาชนไป
การเคลื่อนไหวของดาวดิน เป็นเพียงกรณีเดียว
ที่สังคมได้รับรู้รับทราบผ่านการบอกเล่าของสื่อมวลชนเท่านั้น
เพราะในระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา คำสั่ง คสช. ได้ทำให้สังคมไทยเงียบสงัดลง
ไม่ว่าจะเป็นการเสวนาวิชาการที่ถูกปิดลงนับครั้งไม่ถ้วน
การไล่ชาวบ้านออกจากพื้นที่ต่างๆ นับไม่ถ้วน
ไม่ว่าจะเพราะที่ดินสปก.หรือพื้นที่ป่า
การสั่งห้ามการกิจกรรมเพื่อปฏิรูปที่ดิน
หรือแม้กระทั่งตามต่างจังหวัดที่คสช.เฝ้าระวัง แค่เพียงชาวบ้านนั่งรถเกิน 5
คน ก็จะมีการตั้งด่านจับเพื่อตรวจสอบ



ฉะนั้นภายใต้คำสั่ง คสช. นั้น เราไม่มีประชาธิปไตยใดๆ ทั้งสิ้น

และไม่มีอะไรเป็นหลักประกันได้ว่า หลังผ่านพ้นคำสั่ง คสช.ไปแล้ว เราจะได้มันมาหรือเปล่า



Credit:  http://prachatai.org/journal/2015/07/60137