ความจริง คือ แสงสว่างสู่ทางออกของปัญหา

Monday, May 23, 2016

กรณีหลวงพ่อธัมมชโย ในวันนี้ มีสิ่งผิดปกติ เกิดขึ้นพร้อมกันในวันเดียว ถึง 3 กรณี (CR.Thai Monks)

ในวันนี้ มีสิ่งผิดปกติ เกิดขึ้นพร้อมกันในวันเดียว 
ถึง 3 กรณี
-------------

1.) พุทธอิสระ ออกมา  ขู่ยึด อายัด ทรัพย์ (อยากบ้าก็บ้าไป)

2.) สำนักข่าวทีนิวส์ โจมตี ภาพวงจรปิด
ประกอบการแถลงข่าวเปิดเผยอาการอาพาธของเจ้าคุณธัมมชโย

3.) ดีเอสไอ ให้สัมภาษณ์ ปฏิเสธการไปที่วัด 
เพื่อพบเจ้าคุณธัมมชโย 
โดยเป็นการให้สัมภาษณ์ตัดหน้า ก่อนที่
กลุ่มทนายวัดพระธรรมกาย
จะไปยื่นหนังสือ ให้กับประยุทธ์ 
เพื่อขอให้ท่านยุติคดี เพราะขัดหลักมนุษยธรรม
——————

เจาะลึก 3 กรณี ข้างต้น มีสาระสำคัญ ดังนี้ 

ข้อ 1.เรื่องพุทธอิสระ 

การที่พุทธอิสระออกมาเคลื่อนไหวนั้น
เป็นการข่มขู่ หรือ กำลังจะโจมตี ส่วนที่เป็นยุทธปัจจัย 
คือเงิน ซึ่งเป็นสิ่งแทนเสบียง ปัจจัย 4 ที่จำเป็นในการทำศึก 
พร้อมๆกับเป็นการรู้ทัน ว่า ดีเอสไอ เพลี่ยงพล้ำ

เพราะถ้า พุทธอิสระ จะออกไปขู่ยึดทรัพย์ 
ก็คงทำก่อนหน้านี้

แต่ทำไม ต้องรอให้วันแถลงอาการอาพาธ 
ผ่านไปก่อน 1 วัน แล้ววันรุ่งขึ้น ตัวเองก็ออกมา 
ยังกับรู้เป็นอย่างดีว่าต้องรอคิวให้
กระแสข่าวของฝั่งตรงข้าม 
ที่กำลังฉายอยู่ ผ่านไปก่อน
เพราะตัวเองไม่ค่อยมีสื่อให้ความสำคัญมากนัก 

สู้กระแสวัดพระธรรมกายไม่ได้ 
ตนจึงอยากติดกระแสโดยไม่มีใคร
มาแย่งซีน จึงต้องรอวันรุ่งขึ้น
-------------

ข้อ 2 เรื่อง ทีนิวส์  เต้าข่าวว่า 
ภาพวงจรปิดเผยอาการอาพาธเป็นการจัดฉาก

นี่เป็นการพยายาม ลดความน่าเชื่อถือเรื่องอาการอาพาธ 
ของเจ้าคุณธัมมชโย พร้อมกับ หวังทำลายศรัทธาประชาชน
ที่หย่อนวิจารณญาน แต่ก็ไร้ผล ถ้าประชาชนฉลาดรู้ทัน 
(เว้นแต่พวกโง่ เชื่อตาม ที่ทีนิวส์  หลอกเอา ) 
ทั้งนี้ การที่ประชาชนทั้งประเทศได้เห็น 
คุณ องอาจ ธรรมนิทา แถลงข่าวแล้ว 
ทางดีเอสไอ ก็คงได้รู้ฤทธิ์เดชการแถลงอันเฉียบคม 

ซึ่งประชาชนที่เป็นกลาง หรือพวกที่เคยด่า 
ได้ยินได้ฟังแล้ว ก็เริ่มเอนตัวกลับ อาจคล้อยตาม 
และละอายใจ ที่เคยคิดว่า อาการอาพาธ เป็นเรื่องไม่จริง 
แต่บัดนี้ คือความจริง เจ้าคุณธัมมชโย อาพาธ จริงๆ นี่หว่า 

อีตา ดีเอสไอ คุณหลอกดาว

ดีเอสไอ จึงเตรียมจะกลั่นแกล้ง โฆษกมือดี 
ด้วยการยัดคีดหมิ่นประมาทใส่ แต่อย่ากลัว 
ถ้ามันอยากทำ เท่ากับมันเพิ่มงานให้ตัวเองยุ่งเหยิง 
ขาดสมาธิจดจ่อ ยิ่งทำงานมาก 
งานก็จะยิ่งยาก แต่พลาดง่าย 
ดังนั้น บอกคุณองอาจ 
ให้ท้าทาย ไปสู้กันในศาลได้เลย 
-------------

ข้อ 3 ดีเอสไอไม่ไปพบเจ้าคุณธัมมชโย

ตรงนี้ ดีเอสไอ ทำตามอารมณ์ ไม่คำนึงถึงเหตุผล
คือ หยิ่งในศักดิ์ศรี ที่เคยโอ้อวด โม้เอาไว้ให้นายฟัง 
ว่า เชื่อมือผมเถอะ จะทำให้ดู ซึ่งนายคงเชื่อจริงๆ 
คิดว่า จะโค่นเขาได้ 

แต่บัดนี้ ยิ่งทำก็ยิ่งพลาด จึงชะล่าใจ 
คิดหนัก สับสน ทำอะไรไม่ถูก
กระทั่งออกมาให้ข่าว 
ไม่รับข้อเสนอการไปพบเจ้าคุณธัมมะ ถึงที่วัด

นี่เท่ากับพลาดอีก เพราะจะเป็นการ
ปิดช่องทางเจรจา ที่จะนำสันติมาสู่ชาวพุทธ  

โดยคิดแค่ว่า มิต้องการให้ฝ่ายตรงข้าม 
ได้คะแนนจากสังคม 
อันเนื่องด้วย อาการอาพาธ ที่เกิดอยู่จริง

กลัวแต่ว่า การเดินทางไปพบผู้ต้องหา 
จะเป็นการยอมรับว่า รุมกันออกหมายจับพระ 
ที่อาพาธ มันเสียแต้มอย่างยิ่ง

แถมโหมกระพือข่าว จนสิทธิของผู้ถูกกล่าวหา 
ได้เสียหายไปมากแล้วด้วย

โดยเฉพาะ การออกหมายเรียก ทุกหมาย ที่ผ่านมา 
มันหมดความชอบธรรมลงทันที 
เมื่อดีเอสไอ โกหกสังคมไม่ได้อีกแล้ว

ถ้าการพบเจ้าคุณธัมมชโย ถึงที่วัด นั้น เกิดขึ้นจริง 
ดีเอสไอ ก็จะเป็นคนกลืนน้ำลายตัวเองที่บ้วนออกมาแล้ว
หลายอึก เพราะได้เคย โกหกสังคมไว้ ถึง 4 ข้อด้วยกัน คือ

1.โกหกสังคม และหลอกสื่อทุกสำนัก ว่า 
เจ้าคุณธัมมชโยไม่ได้ป่วย จึงออกหมายจับ ใช่หรือไม่

2.อาการอาพาธ คือพยานบุคคล 
ที่ชี้ชัดว่า ดีเอสไอ ให้การเท็จต่อศาล 
เพื่อขอศาลให้ออกหมายจับ 
โดยที่ศาลเชื่ออย่างสนิทใจว่าพระไม่อาพาธ ใช่หรือไม่

3.การบอกกับสังคมว่า ใบรับรองแพทย์ มีปัญหา 
มันคือการเฉไฉ ไหลลื่น ใช่หรือไม่

4.การกระทำทั้งหมด ย่อมเป็นทุจริตต่อหน้าที่ของตน 
ในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ละเมิดสิทธิมนุษยชน 
ละเมิดสิทธิ์ผู้ป่วย และไม่เหมาะที่จะอยู่ภายใต้
สังกัดกระทรวงยุติธรรม เนื่องจากดำเนินการทุกอย่าง 
โดยไร้ความยุติธรรมแล้ว ยังปฎิบัติขัดแย้ง
ต่อหลักสิทธิมนุษยชนสากล อีกด้วย ใช่หรือไม่
-------------

ในวันนี้ ทั้งพุทธอิสระ บิ้กต็อก และไพสิฐ ถึงกับลงทุนลงแรง
ออกมาพร้อมกันทีเดียวถึง 3 คน
ในขณะที่ เจ้าคุณธัมมชโย นอนพักผ่อน 
รักษาอาการอาพาธ อย่างสงบนิ่ง อยู่บนเตียง 
และ คนที่ออกมาต่อสู้ ก็เป็นเพียง ลูกศิษย์ ลูกหา ตาดำๆ 
-------------

แต่ต้องยอมรับว่า นี่ขนาดแค่ ลูกศิษย์ตัวเล็กๆ 
ไม่ใช่คนใหญ่คนโตในประเทศ
แต่ว่า สติปัญญา ระดับลูกศิษย์ ตัวเล็กๆ 
เหล่านี้ ไม่กี่คน ซึ่งการศึกษาก็
ไม่ได้สูงส่งมาจากไหน 
ที่แถลงข่าวผ่านสื่อ 
ไม่ได้เป็นเสนาธิการ ชำนาญศึก 
จากสมรภูมิแห่งใด  
-------------

ใครกันหนอ ที่จับเด็กๆพวกนี้ให้
ก้าวขึ้นสู่สังเวียนนักสู้ที่เยี่ยมยุทธ์ได้ขนาดนี้
นึกไป นึกมา ไม่มีใครฝึกให้ 

แต่ ดีเอสไอ ตัวดี นี่เอง ที่ลากพวกเขาออกมา
ทำให้พวกเขา เติบโตเป็นนักรบ ตาม สัญชาตญาณ
-------------

การที่ประชาชนทั้งหลาย ได้เห็นสาวรำวง ทั้งสามตัว 
ออกมาดิ้นเร่าๆ บนเวทีละครน้ำเน่า พร้อมๆ กันในวันเดียว 
เต้นโหยงเหยง ยึกยัก เหมือน หมาโดนน้ำร้อนลวกซะขนาดนี้
-------------

ยังนึกสงสัยจริงๆว่า มือดีที่สุด ของฝ่าย ดีเอสไอ นั้น 
มีน้ำยา แค่นี้จริงๆ หรือ 
-------------

เสียแรงที่เคยประเมิณพวกนี้ไว้สูงเกินไป น่าเบื่อตัวเอง จริงๆ
-------------

ขอเอาใจช่วยชาววัดพระธรรมกาย 
เป็นตัวแทนชาวพุทธทั่วโลก
ฝึกปรือ รับมือกับภัยคุกคามให้ชำนาญ 
แล้วเขียนตำราพิชัยสงครามต่อต้านภัยศาสนา 
เอาไว้ให้อนุชนรุ่นหลัง 
ได้ศึกษาเป็นประวัติศาสตร์โลกด้วยเถิด
---------------

(อย่าดัดแปลงข้อมูล )

---------------
ธรรมะคุ้มครองทุกท่าน
CR.Thai Monks
๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๙

No comments:

Post a Comment