ความจริง คือ แสงสว่างสู่ทางออกของปัญหา

Thursday, September 20, 2012

ทำไมผมเกลียดและทำลาย ดร. ทักษิณ ไม่ลง

ผมนั่งจิบไวน์แดง Cabernet Sauvignon 2009 จาก  Columbia Valley, Washington ซึ่งไม่แพงมาก แต่รสชาติกลมกล่อมและหวานอมนิ่ม  พร้อมกับชิ้นแฮมหลากรสย่างไฟพออุ่นและหอม  แล้วก็มานั่งดูถ่ายทอดย้อนหลัง บอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลึก ระหว่าง บาร์เซโลน่า และ สปาร์ตัคมอสโคว  แล้วก็นั่งคิดเล่น ๆ เรื่องการเมืองไทย คำถามหนึ่งที่น่าจะมีบางท่านสงสัย คือทำไมผมถึงไม่ค่อยจะวิพากษ์ดร. ทักษิณ แบบรุนแรง หรือเผ็ดร้อน แบบเมื่อก่อน โดยเฉพาะสมัยอยู่ Red UDD  และตอนตั้งมหาวิทยาลัยใหม่ เมื่อต้นปีนี้

บางท่านอาจจะคิดกันแบบไร้เหตุผลและหลักฐานว่า ดร. เพียงดิน ได้เจอ ดร. ทักษิณ ครั้งแรก แล้วก็เลยถูกซื้อ เลยอ่อนเป็นเทียนลนไฟ  ทั้ง ๆ ที่เคยด่า เคยคาดหวัง และคาดโทษดร. ทักษิณ ไว้ว่า "หากไม่ลงสัตยาบันกับ ไอซีซี แล้วพี่น้องคนไทยถูกทหารออกมาฆ่าอีก คุณทักษิณ ก็เป็นศัตรูกับผม"!!!

วันนี้ ผมยังถือเช่นนั้นหรือไม่   ผมตอบได้ว่า ยังถือว่า ดร. ทักษิณ ต้องมีส่วนรับผิดชอบ แต่จะเป็นศัตรูเลยหรือไม่  ผมยังละเอาไว้ เพราะคำตอบตรงนั้น มันไม่ใช่อะไรที่เถรตรงอีกต่อไป    ผมเลยอยากบอกพี่น้องที่ชอบลีลาเด็ดขาดของผมไว้ตรงนี้ว่า  ผมเกลียดและทำลาย ดร. ทักษิณไม่ลง ด้วยเหตุที่สมผล ไม่ใช่เพราะถูกซื้อ หรือถูกคอกับ ดร. ทักษิณ หรือถูกอิทธิพลใด ๆ มาทำให้เบี่ยงเบนไปจากเป้าหมายสำคัญสูงสุดของอุดมการณ์ทางการเมือง       เหตุที่ผมเกลียดและโทษ ดร. ทักษิณไม่ลง มีดังนี้ครับ

หนึ่ง เหมือนที่ผมได้บอก ดร. ทักษิณ ไว้ คือ เมื่อผมมองดูคนในประเทศไทยทั้งหมด และแยกเป็นสองกอง คือ กองหนึ่งเป็นคนดี หรือพยายามคิดดี ทำดี พูดดี เพื่อสิ่งดี ๆ กับประชาชน และอีกฝ่ายหนึ่ง เป็นฝ่ายที่คิด พูด และทำเพื่อประโยชน์ของคนส่วนน้อย แล้วใช้เล่ห์กล อภิสิทธิ์ อำนาจ และมายาต่าง ๆ จนบ้านเมืองเสียหายมหาศาล ทำร้ายประชาชนอย่างใจโหดเหี้ยมเหมือนไม่เห็นประชาชนเป็นคนเหมือนพวกเขา แล้วผมจัด ดร. ทักษิณไว้ในกลุ่มแรก  ดังนั้น ผมจะยังไม่ถือว่าท่านเป็นศัตรูของประชาชนครับ ยิ่งเรามองจากกรรมที่ผ่านมา ผลงานที่ผ่านมา และกรรมปัจจุบัน  ผมยิ่งมั่นใจว่า ตัดสินไม่ผิดพลาดนัก
และเมื่อต้องมีทัพสองทัพ คือทัพเผด็จการและประชาธิปไตยมาเผชิญหน้ากัน ผมเชื่อว่า ดร. ทักษิณจะไม่ทิ้งทัพประชาธิปไตย จะไม่อยู่ข้างอำมาตย์แล้วหันมาทำร้ายประชาชน

สอง จากการสัมผัสแบบสั้น ๆ และไม่ได้ลึกซึ้งอะไรมาก ผมพอจะรู้สึกได้ว่า ดร. ทักษิณ รักประชาชนมากกว่าฝ่ายอำมาตยาราชาธิปไตยแน่นอน  ผมได้ดูหน้าตา ฟังความคิด และได้ยินกับหูเห็นกับตา ตอนที่ ดร. ทักษิณย้ำว่า ท่านเป็นคนกตัญญู  ท่านอยากให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น และเมื่อดูจากสันดานและพฤติกรรมที่ผ่านมา ผมเชื่อว่า ท่านจะไม่ทิ้งประชาชนเมื่อวันสำคัญมาถึง หากท่านยังมีลมหายใจอยู่

สาม ดร. ทักษิณ เป็นเหยื่อของวงจรอุบาทว์ในระบอบราชาธิปไตย บ้านแตกสาแหรกขาด (แบบคนรวย)  กลับบ้านเกิดเมืองนอนไม่ได้ ถูกใส่ร้ายและปองร้ายแบบไม่หยุดหย่อน ถูกทำให้เสียศักดิ์ศรี  ซึ่งเมื่อดูแล้ว ใครก็ตามไม่น่าจะตายตาหลับได้ หากไม่ได้รับความยุติธรรม ดังนั้น ดร. ทักษิณ ไม่น่าจะกลายเป็นศัตรูประชาชนและขบวนปฎิวัติได้จริง และในใจลึก ๆ ท่านต้องมีสำนึกที่สมเหตุสมผลว่า ควรทำอะไรบ้าง

สี่ เราอาจจะมีหลักการต่าง ๆ และความคาดหวังให้ ดร. ทักษิณและน้องสาว ต้องทำตามหลักการเหล่านั้น แต่เราต้องไม่ลืมว่า สมุนและองคาพยพฝ่ายเผด็จการ เขาพร้อมทำลายขุมกำลังของ ดร. ทักษิณตลอดเวลา   ดูการทำงานของ ปชป. สื่อสามานย์ คณะกรรมการอิสระ (ตุลาการรัฐธรรมนูญ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ปปช. คอป. และแม้แต่ศาลอาญา) และองคาพยพของฝ่ายราชาธิปไตย เราจะเห็นได้ชัดว่า นิ่งก็ไม่ปลอดภัย ขยับยิ่งเป็นการเชื้อเชิญการแตกหัก และสิ่งที่เพื่อไทยและ ดร. ทักษิณ ทำได้ คือรักษาอำนาจ และค่อย ๆ ปรับดุลย์อำนาจให้ได้เปรียบ เพื่อผลในวันต้องแตกหัก ดังนั้น การคาดหวัง เราสร้างเป็นกระแสได้ แต่ผลของมันนั้น เราต้องเข้าใจความเป็นจริง แล้วเราจะทำลายคนที่อยู่ในสภาพอย่างนี้ ด้วยความคาดหวังที่ไม่สมเหตุผล และการจ้องทำลายแทนที่จะกดดันอย่างมิตร และแนะนำอย่างเพื่อนร่วมทางและหวังดีเล่า สำคัญที่สุด เราต้องถามตัวเองว่า เราอยากให้ใครทำอะไรนั้น แล้วตัวเราล่ะ ทำอะไรได้ ทำอะไรได้จริง ๆ แล้วควรจะทำอะไรเพิ่มขึ้นไปอีก?

ห้า ดร. ทักษิณ อาจจะมีอิทธิพลต่อพรรคเพื่อไทยและน้องปูบ้าง แต่เราต้องเข้าใจว่า น้องปูไม่ใช่คนเดิม น้องปูมั่นใจขึ้น รู้ช่องทางมากขึ้น และมีโลกของตัวเอง ที่มีกลุ่มผลประโยชน์ คนรู้ใจ คนไว้ใจ (?) และผลประโยชน์ส่วนตนที่มองเห็นและใช้ประโยชน์ได้ จากการวางตัวรับใช้ระบอบเผด็จการ และการรอมชอมอย่างที่เป็นอยู่ ดร. ทักษิณ สั่งได้แค่ระดับหนึ่ง และขอร้องได้แค่ในบางเรื่อง น้องปู ถูกบงการด้วยทั้งทิฎิฐิส่วนตัว และอิทธิพลรอบข้าง  ประสบการณ์และความรู้ที่เธอมี ไม่สามารถทำให้เธอมองภาพรวมของทั้งระบบของสังคมไทยได้ครบ  ดังนั้น บางเรื่องเธอไม่ยอมตาม ดร. ทักษิณ และยืนตรงข้ามกระแสแดงปฎิวัติ และการเป็นประชาธิปไตยแบบต้องเปลี่ยนแปลงทั้งระบอบอย่างเป็นธรรมชาติของเธอ ดังนั้น หลายเรื่อง การโทษ ดร. ทักษิณ จึงไม่ใช่เรื่องที่ตรงความจริงนัก  แปลว่า น้องปู ต้องแบ่งรับความรับผิดชอบไปด้วย

หก ในอดีตที่ผ่านมา เราไม่เคยคาดหวังให้ใครมาเป็นนายก หรือมีอำนาจ แล้วจะต้องไปหักหาญ เปลี่ยนระบอบจากอำมาตยาราชาธิปไตย ให้เป็นระบอบประชาธิปไตยสมบูรณ์  เราหวังแค่ให้ได้นายกฯ ที่ดี ทำงานให้ได้ผลถึงปากท้องและความเจริญของประเทศ  ดร. ทักษิณ ใช้มวลชนเป็นฐาน ก็ควรจะรับผิดชอบกับภาระที่มวลชนฝากให้ด้วย  แต่เราก็ต้องไม่ลืมมองด้วยว่า ดร. ทักษิณ ไม่ได้สมบูรณ์ทุกด้าน ท่านอาจจะหัวก้าวหน้า มองโลกทะลุ เก่งทางเศรษฐศาสตร์ และกล้าบริหารจริง แต่ท่านก็เป็นอดีตนายตำรวจ ที่ถูกฝังหัวด้วยความหลงบางประการ ท่านไม่สมบูรณ์หรอกครับ อาจจะสำนึกช้า ทำช้า กลับตัวช้า กล้าช้า หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่เราจะไปทำลายท่านหรือ?  เราเองไม่มีหน้าที่ทำหรือ?  เมื่อฝ่ายตรงข้ามเขามีทัพที่มีหลายทัพย่อยครบครัน และไม่ยอมหยุด   แล้วเราประชาชนจะให้นายกฯ หรือ ดร. ทักษิณ ทำแทนเราหรือ?  เรามีส่วนต้องทำด้วยใช่หรือไม่?  ดังนั้น แทนที่จะโทษและทำลายกันแบบไม่ระวัง  ทำไมเราไม่ดันให้เขาเกิดสำนึก แล้วหันมาทำเพื่อประชาชนแทนการด่าแบบสาดเสียเทเสีย หรือคาดหวังแบบไม่สมเหตุสมผล ไม่พยายามเข้าใจ แล้วก็ไปขัดจังหวะ หรือพูดทำลาย โดยเราไม่ทำอะไรที่เราต้องทำด้วยเลย

เจ็ด ข้อนี้เป็นหมายเลขประจำตัว เวลาผมเล่นฟุตบอล  ขอจบตรงนี้ว่า ผมเกลียด ดร. ทักษิณ และทำลายท่านไม่ลง เพราะท่านน่าจะเป็นเหมือน เมสซี่ ที่ยิงสองประตู ให้บาเซโลน่าชนะสปาร์ตัคฯ 3-2  การทำลาย ดร. ทักษิณ สำหรับผม เหมือนการที่แฟน ๆ หรือผู้จัดการทีมบาร์เซฯ เอาฆ้อนไปไล่ทุบเท้าเมสซี่ ที่อาจจะไม่ยอมยิงประตูหรือเล่นได้ไม่เต็มฟอร์ฒ ถามว่า ทำแล้วได้อะไรครับ?  ผมคิดว่า สำหรับดร. ทักษิณ เราบอกให้ท่านทราบว่า มวลชนหวังจากท่าน รักท่าน และฝ่ายตรงข้ามมันโหดร้าย เลวร้าย และไม่มีทางยอมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตามเจตนาอันดีมีธรรมสูงของท่าน ดังนั้น ท่านต้องเข้าใจและยอมรับภาระที่ประชาชนยื่นให้ ในการเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนประเทศ

ไวน์หมดไปครึ่งขวด แอมหมดไปสี่ห้าชิ้น และตบท้ายด้วยคุ๊กกี้อีกสี่ห้าชิ้น  ผมจบบทความพอดี เกมบาร์เซฯ จบพอดี   ผมหวังว่า ใครที่คิดว่า คนที่สู้มาในฐานะนักคิดเสื้อแดง จะถูกซื้อ เปลี่ยนอุดมการณ์ หรือหน่อมแน้มมาทำลายกันเอง หรือทิ้งหลักการสูงสุดนั้น จะได้คิดว่า ทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง และเหตุผลที่ลึก ๆ นั้น ในบางครั้ง มองแค่สิ่งที่ท่านได้ยินหรือเห็นไม่ได้ หรือสรุปจากที่ปากคนพูดไม่ได้  ต้องใช้ใจ ใช้สติ และใช้ความเฉลียวฉลาดบนอุดมการณ์ที่สูงจนเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัว ความโลภ โกรธ หลง และตัวแปรใด ๆ เอื้อมไปทำลายไม่ได้

อยากบอกว่า เวลานี้ พี่น้องเสื้อแดงจงอย่าได้หลงผิด แล้วทำลายกันเอง ศัตรูเราคือใคร ต้องอย่าหลงครับ อย่าได้สร้างนิสัยทำลายตัวเองและกันเอง ด้วยเหตุใดก็ตาม   หากท่านจะหลงลืม ขอให้คิดเอาไว้ว่า อุดมการณ์แดงนั้น แท้จริงแล้วคืออะไร  หากคำตอบของท่านมันชัดและลึกพอแล้ว ท่านจะพบว่า แดงไม่ว่าเฉดไหน ลึก ๆ แล้ว เราเป็นพี่น้องร่วมอุดมการณ์กันได้แน่นอน

อย่างไรก็ตาม ผมต้องบอกว่า ผมไม่นิยมสิ่งเหล่านี้ คือ ลัทธิการบูชาบุคคลเหนือหลักการ การเชื่อโดยไม่ตรวจสอบ การมีพระเอกนางเอกขี่ม้าขาวเป็นหลัก การใช้ความหยาบคายทำลายล้าง และการหลอกลวงเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนและคณะอย่างไม่อายฟ้าดินหรือโดยดูถูกประชาชน   และผมเชื่อว่า รัฐบาลและ ดร. ทักษิณ ทำได้มากกว่าที่ทำ และหากไม่มีแรงกดดัน พวกเขาจะทำดีได้น้อยกว่าที่ควรจะทำได้ เพราะมนุษย์ทุกคน มีจุดอ่อน มีโอกาสทำบาปหรือหลงผิดได้      ดังนั้น ไม่ต้องไปโอ๋หรืออวย ดร. ทักษิณ และคุณปูหรือใคร ๆ จนเกิดเหตุนะครับ   และท้ายสุด สิ่งที่ต้องย้ำสำหรับตัวผมก็คือ ผมไม่รักเจ้า ไม่เอาระบอบราชาธิปไตย ยืนยันเสมอว่า อำนาจอธิปไตยต้องเป็นของประชาชนโดยสมบูรณ์ไม่ว่าจะมีเจ้าในสังคมไทยหรือไม่ก็ตาม   ท้ายสุด ขอทุกท่านโชคดีมีสุขนะครับ พี่น้องที่รักทุกท่าน

ด้วยรักและศรัทธาเสมอ
เพียงดิน ฉบับเคลิ้มไวน์แดง (อิ ๆ)


No comments:

Post a Comment